Entertainment

เปิ้ล หัทยา เปิดใจทั้งน้ำตา หลังสูญเสีย ตั้ว ศรัณยู เล่านาทีบอกลาครั้งสุดท้าย

เป็นข่าวเศร้าสำหรับคนในวงการบันเทิงไทย สำหรับการเสียชีวิตของ ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ที่จากไปด้วยโรคมะเร็งตับในวัย 59 ปี และเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ทางครอบครัววงษ์กระจ่างได้ทำพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดนาคปรก ณ ศาลาเศรษฐี โดยมีญาติสนิท รวมไปถึงเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยกันอย่างต่อเนื่อง

1 เปิ้ล หัทยา 3

กระทั่งเวลา 17.30 น. โดยประมาณ เปิ้ล หัทยา ภรรยา พร้อมด้วยพี่ชาย เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ก็ได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ว่า “ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกคนที่อาจจะไม่ได้อธิบายอะไรเลยในช่วงที่ผ่านมา เพราะตัวพี่ตั้วเขามองว่ามันเป็นแค่เรื่องสุขภาพก็เลยไม่ได้เปิดเผยหรือไม่ได้บอกใคร ซึ่งหลายๆ คนก็น่าจะทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้พี่ตั้วเขาเคยมีอาการเจ็บหลัง และเมื่อได้ทำการตรวจก็พบว่ามีกระดูกข้อที่ 3 บริเวณกระดูกสันหลังยุบลงไป คุณหมอก็เลยทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อดูว่ากระดูกที่ยุบลงมานั้นมันมีสาเหตุมาจากอะไร”

“ตอนแรกก็เกือบจะทำการผ่าตัด แต่เมื่อคุณหมอลองพิจารณาดูอย่างละเอียด เขาก็รู้สึกว่ากระดูกบริเวณอื่นยังแข็งแรงดีอยู่ เลยทำให้เขาสงสัยว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร และที่สำคัญมันมีอาการของลิ่มเลือดด้วย สุดท้ายเขาก็เลยแนะนำว่าให้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดดีกว่าเพื่อที่จะได้รู้ว่าลิ่มเลือดมาจากไหน”

“เมื่อตรวจก็พบว่า ค่าตับขึ้นสูง เพราะพี่ตั้วเป็นไวรัสตับอักเสบบีมาก่อนแต่งงาน แต่ที่ผ่านมาเขาสามารถดูแลตัวเองได้ และเขาดูแลตัวเองมาตลอด เขาเช็กร่างกายตลอด แต่อาจจะมีแค่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เขาไม่ได้เช็กร่างกาย ซึ่งมันก็กลายเป็นว่าไอสิ่งที่อยู่ในตับของเขามันโตขึ้น จนกระทั่งมันทำให้ไวรัสตับอักเสบบีกลายพันธุ์และเป็นมะเร็งในที่สุด”

“เรารับรู้กันมาตั้งแต่แรก แต่ด้วยความเป็นพี่ตั้ว เขาก็รู้สึกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะเขาดูแลสุขภาพอย่างดีมาโดยตลอด ตรวจเช็กร่างกายสม่ำเสมอ แต่สุดท้ายแล้วเชื้อมันก็ลามมาที่กระดูก จากกระดูกข้อที่ 3 ก็ลุกลามขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงสะบัก ซึ่งเขาก็รักษาตัวมาเรื่อยๆ”

“ตอนที่ไปโรงพยาบาล ไปตรวจกระดูก คุณหมอบอกว่าน่าจะอยู่ในระยะที่ 3 และน่าจะยังรักษาได้ คุณหมอก็จะพยายามให้ยาตัวที่สามารถคุมการกระจายของตับก่อน ก็ให้ยาไปทั้งหมด 6 เข็ม ก็ดีขึ้น พี่ตั้วสามารถออกไปทำงานต่อได้อีกครั้งช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ออกไปกำกับละครที่เขาทำค้างอยู่ และก็เริ่มเปิดละครเรื่องใหม่”

1 เปิ้ล หัทยา 9

“จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกปวดบริเวณสะบัก ปวดขา และเอว เลยทำให้ต้องกลับไปหาคุณหมออีกครั้ง คุณหมอก็ลงความเห็นว่าควรจะต้องพัก เนื่องจากกระดูกของเขาทรุดเพิ่ม เราจึงเข้าสู่กระบวนการฉายแสง แต่ด้วยความที่ตับมันอยู่ใกล้กับท้องอยู่ใกล้กับกระเพาะ เลยทำให้เวลาพี่ตั้วทานอาหารเขารู้สึกพะอืดพะอม ประกอบกับเช็กร่างกายมาแคลเซียมสูง ทำให้ไปทำลายการพักผ่อน ไม่อยากนอน ไม่อยากกิน”

ตอนที่เขาเข้าไปรักษาตัวครั้งแรกเมื่อช่วงประมาณเดือนตุลาคมอย่างที่ทราบข่าว ตอนนั้นเขายังแค่รู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลีย เดินได้ช้าๆ แต่พอเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เขาเริ่มแข็งแรงขึ้น เริ่มกลับมาออกกองได้ เขาไปออกกองอยู่หลายครั้งเหมือนกัน แต่สุดท้ายอาการของเขาก็เริ่มทรุด แต่ว่าเราทุกคนต้องเจอกับ โควิด-19 พอดี เราก็เลยไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร และก็อยากให้ทุกคนหันไปโฟกัสดูแลตัวเองกันดีกว่า ขนาดเพื่อนฝูงที่เจอกันเราก็ไม่ได้บอก ถึงแม้จะมีคนทักว่าทำไมพี่ตั้วดูผอมลง แต่พี่ตั้วก็ไม่ได้พูดหรือเล่าเรื่องนี้กับใคร เพราะเขามองว่าทุกคนต่างก็เจอภาวะความเครียดกันอยู่แล้ว ดังนั้นพอมันเป็นเรื่องสุขภาพของเขา เขาก็แค่อยากดูแลตัวเองดีกว่า”

“เมื่อเขาเริ่มทานอะไรไม่ค่อยได้ น้ำหนักเริ่มลดลง และมีภาวะแคลเซียมสูง ระบบความคิดช้าลง แต่เขายังพูดได้ เวลาที่เขาตื่นเขาก็จะเริ่มพูดถึง คือเขาเริ่มรู้สึกคิดถึงงานมาก จนเราต้องบอกเขาว่า ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้าน เขากำลังพักผ่อนอยู่ตามคำแนะนำของหมอ เขาต้องพัก 6 เดือน ถึงจะกลับไปทำงานได้ แต่มันเหมือนเขารู้สึกว่าเขาออกกองอยู่ตลอดเวลา เราก็เลยตัดสินใจว่าไปหาคุณหมอดีกว่า เราเพิ่งเข้าไปโรงพยาบาลกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเอง”

“หลังจากทำการเอ็กซ์เรย์ปอดคุณหมอก็อธิบายว่า จากเชื้อที่เคยมีอยู่ที่ปอดนิดเดียว ตอนนี้มันเยอะขึ้น แถมยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและก็เรื่องของแคลเซียมอีก”

“ตอนนั้นตัวเราเองรู้สึกว่ามันเร็วไป ตอนแรกเราคิดว่าการไปโรงพยาบาลครั้งนี้น่าจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนยา ไม่ได้คิดอะไรเลย (น้ำตาคลอ)”

“ช่วงนั้นเขายังสามารถพูดคุยได้ปกติ แต่จะพูดช้าลง เนื่องจากว่าเขามีภาวะแคลเซียมสูง จึงทำให้ระบบความคิดของเขาช้าลงตามไปด้วย แต่ก็ยังพูดได้อยู่ เขายังพูดกับคุณหมอเลยว่า อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม จนกระทั่งคุณหมอเริ่มมาบอกกับเปิ้ลว่า พี่ตั้วเขาอยากเจอใครเป็นพิเศษไหม ตอนนั้นเปิ้ลก็รู้สึกเอะใจนะคะว่าทำไมคุณหมอถามแบบนี้ คือไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่สุดท้ายก็เลยไปเชิญพี่ชายพี่ตั้วมาเจอหน้าเขา”

1 เปิ้ล หัทยา 6

ด้าน พี่ชาย เอก ธเนศ เผยว่า “รู้ทุกอย่างตอนนั้นเลย รู้ว่าเขาเข้าโรงพยาบาล รู้ว่าเขาล้ม คือเคยคุยกันแค่ประมาณนิดๆ หน่อยๆ ช่วงเดือนก่อน ซึ่งตอนนั้นไม่เข้าใจหรอกว่าเขาอธิบายอะไร จนกระทั่งได้มาทราบรายละเอียดอีกทีตอนที่เปิ้ลบอกกับมว่าตั้วเขากินอะไรไม่ค่อยได้ คือตั้วเขาไม่บอกใครเลย ไม่บอกใครเลยจริงๆ เขาเป็นคนแบบนี้ เขาไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน เขาอยากแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ญาติพี่น้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เขารู้แค่กับเปิ้ล 2 คน ขนาดลูกสาวเขายังไม่บอกเลย เพิ่งมารู้ เราเองก็มารู้ตอนหลัง”

“หลังจากที่ทราบเรื่อง ก็เดินทางมาหาเขาและเราก็เริ่มพูดคุยกัน ตอนนั้นอาการเขาก็โอเคนะ ถึงแม้เขาจะพูดช้า แต่เขารับรู้ทุกอย่าง ใช้วิธียักคิ้วตอบโต้เรา กับยกมือได้นิดๆ หน่อยๆ ผมจำได้ว่าเราคุยกันอยู่ประมาณ 2 วัน”

“ช่วงสุดท้ายตอนที่ตั้วจะไป ตั้วเขานอนนิ่งๆ เหมือนเขาหลับไปเฉยๆ เราก็บอกเขาว่าหลับไปก็ได้นะ ถ้ามันเหนื่อยก็หลับไปไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็เหมือนตื่น ไปตื่นที่ไหนก็ไม่รู้ ตื่นเมื่อไหร่ก็ช่างมัน แต่ตอนนี้ให้เขาสบายใจได้แล้ว ลูกเมียอยู่กับเขา ญาติพี่น้องอยู่กับเขา เพื่อนฝูงมาอยู่กับเขาหมดแล้ว ทุกคนมาส่งเขาแล้ว ให้เขาคิดว่าเขาไปเที่ยว แล้วทุกคนมาส่งเขา เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีกไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง จนสุดท้ายตัวเขาก็ค่อยๆ ไป”

“คุณหมอบอกว่าที่ผ่านมาเขาพยายามสู้ 2-3 วันสุดท้าย เขาสู้มาตลอด เพราะเหมือนชีพจรเขาคงที่มาตลอด จนกระทั่งทุกคนที่เค้าอยากเจอเริ่มมาจนครบแล้ว สักประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ชีพจรเขาก็ค่อยๆ ลง ไปเรื่อยๆ ไม่มีภาวะยื้อใดๆ เลยทั้งสิ้น เขาไปแบบสบายๆ คือสงบจนผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขาพาพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสงบตามไปด้วย”

1 เปิ้ล หัทยา 11

เมื่อถามว่าเขาได้สั่งเสียหรือพูดอะไรไว้บ้างไหมก่อนที่เขาจะไปหรือไม่ เปิ้ล หัทยา เผยว่า “มีนะคะ เราคุยกันอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาลเราก็คุยกันอยู่เขาจะเป็นคนที่ห่วงเรื่องงานเยอะมาก โดยเฉพาะงานที่เป็นงานของเขา ขนาดเราเสนอไปว่าจะหาใครมาช่วยเขากำกับ เขาก็บอกว่าไม่ได้ เพราะมันคืองานที่เขากำกับมาตั้งแต่แรกเขาต้องทำให้จบ”

“นอกจากเรื่องงานแล้วก็ยังมีเรื่องของลูกสาว น้องหนุน กับ น้องหนัง ก็ถามเรื่องลูกเรียนจบแล้วใช่ไหม วางแผนชีวิตอย่างไร เปิ้ลต้องทำความฝันที่คิดไว้ให้เป็นความจริงนะ เปิ้ลอย่าท้อนะ คือเขาก็จะพูดไปเรื่อย เราคุยกันเกือบทุกวัน แม้แต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเราก็ยังคุยกันอยู่เลยว่า เราจะต้องทำสิ่งที่เราอยากทำให้เป็นความจริงให้ได้ ถึงแม้ว่าจะลำบากก็อย่าท้อ”

“ช่วงนี้ผ่านมาต้องเข้มแข็งมาก เข้มแข็งตั้งแต่เวลาที่มีคนเข้ามาถามแล้วว่าพี่ตั้วเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเขาไม่อยากให้ใครต้องมาวิตกกังวลว่าเขาจะเป็นอย่างไร เขาไม่อยากให้เพื่อนต้องกังวลว่าจะต้องมาเยี่ยม เขามองว่ามันเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”

“ระหว่างรักษาตัว พี่ตั้วใจสู้มาก ครั้งแรกที่คุณหมอบอกว่าเขาป่วยเขาก็ตอบคุณหมอทันทีเขาว่าเขาสู้  เขาสู้มาตลอด ทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพราะเขาอยากทำงาน เขาอยากออกกอง เขาอยากทำงานของเขามาก เนื่องจากเขายังมีงานที่เขาทำค้างเอาไว้อยู่”

“ส่วนลูกๆ ตอนนี้น้องหนุนเรียนจบแล้ว แต่ด้วยความที่ช่วงนี้มันเป็นช่วงของ โควิด-19 ก็เลยอาจจะมีเรื่องของการเลื่อนโปรเจกต์จบนิดๆ หน่อยๆ เพราะตอนแรกเหมือนเขาจะต้องทำละครเวที 1 เรื่อง โดยมีคุณพ่อเขาเป็นคนช่วยแนะนำ แต่พอมันเกิด โควิด-19 ขึ้น หนุนเขาก็เลยต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนใหม่หมด ซึ่งพี่ตั้วเขาก็พูดว่าเขาจะต้องไปงานรับปริญญาลูกให้ได้ ส่วนน้องหนัง เป็นช่วงที่เขากลับมาจากเกาหลีพอดี เขาก็เลยได้มีโอกาสอยู่ดูแลคุณพ่อ”

1 เปิ้ล หัทยา 2

“พูดกันตามตรง เราไม่ได้คิดเลยว่าพี่ตั้วเขาจะไปกะทันหัน เพราะก่อนหน้านี้เรายังวางแผนกันอยู่เลยว่าปีนี้จะไปหาลูกที่เกาหลีช่วงไหนดี หรือถ้าพี่ตั้วหายดีแล้วเราก็จะไปเที่ยวทะเลกัน ส่วนหนุนที่เรียนจบเราก็คุยกันว่าเขาจะมาช่วยอะไรเราได้บ้าง คือไม่ได้คิดอะไรเรื่องพวกนี้เลย มันกะทันหันมาก”

“หลังจากนี้เราพร้อมกับการทำงานหนัก พร้อมที่จะลุยงาน (ร้องไห้) แต่เรื่องของสภาวะจิตใจแน่นอนว่ามันก็ต้องมีบ้างที่เรารู้สึกถามตัวเองว่า ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องจริงเหรอ มันมีแว่บๆ เข้ามาบ้างเหมือนกัน”

“ถามว่าในฐานะภรรยาเราภูมิใจในตัวสามีคนนี้ยังไง พี่ตั้วเขาเป็นคนที่มีหลายบุคลิก เขาเป็นคนทำงาน เป็นคนจริงจัง เรื่องไหนที่เป็นเรื่องส่วนตัวก็คือส่วนตัว ทุกคนต่างก็มีภาวะความเครียดของตัวเองอยู่แล้ว ทำไมเราจึงต้องเอาเรื่องของเราไปให้คนอื่นเขาคิดมากอีก เขาเป็นคนที่มองอะไรแบบนี้ อีกมุมเขาก็เป็นคนน่ารัก เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นคนเข้มๆ เป็นคนที่ดูจริงจัง แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีในบางจุด”

1 เปิ้ล หัทยา 5

เอก ธเนศ บอกว่า “ผมภูมิใจในตัวเขามาก เขาเป็นคนที่จริงจังในทุกเรื่อง เขาเป็นคนที่ทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่คิดถึงตัวเองสักเท่าไหร่ และก็ชอบเก็บความรู้สึกเอาไว้ ชอบแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่ามันเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจนะ แถมเขาเป็นคนที่รักครอบครัวมากเลยด้วย ในฐานะพี่ชายผมก็ภูมิใจในตัวเขาที่สุด”

“เรื่องเกิดแก่เจ็บตาย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ทุกคนช็อก เราเองก็ช็อก แต่ช็อกแป๊บเดียวก็พอ เราดูไว้เป็นอุทาหรณ์ สิ่สิ่งที่เกิดกับตั้วมันก็เหมือนทำให้เราได้เห็นว่าทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครคาดคิด เพราะฉะนั้นก็ใช้เวลาทุกขณะด้วยความไม่ประมาท ฝากแฟนๆ ของตั้วทุกคน ให้ลองมองตั้วเป็นอุทาหรณ์เพื่อที่จะได้เกิดเป็นบุญกุศลแก่เขา”

1 เปิ้ล หัทยา 8

เปิ้ล หัทยา  “ขอบคุณแฟนละครของพี่ตั้วทุกคน ทั้งจากเพจในโลกออนไลน์ หรืออะไรก็ตามที่เขียนถึงพี่ตั้ว อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ขอบคุณมากจริงๆ และก็ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ในวงการบันเทิงที่ได้เขียนข้อความไว้อาลัย โทรศัพท์มาหา เราขออภัยด้วยหากไม่ได้รับโทรศัพท์ใครเพราะช่วงนี้มันค่อนข้างวุ่น ขอบคุณทุกคนจริงๆ ขออภัยด้วยที่ไม่ได้บอกอะไรใครเลย เพราะพี่ตั้วเขาขอไว้ว่าเขาอยากให้แข็งแรงก่อน เพื่อที่เขาจะได้มาบอกกับทุกคนด้วยตัวเองว่าการต่อสู้ของเขากับโลกนี้ มันเป็นอย่างไร เขาอยากจะบอกเอง”

“อย่างที่บอก ช่วง 5-6 วันที่ผ่านมาเขานิ่งและดูสงบมาก เขาไม่ได้ดูเจ็บปวดหรือทรมานใดๆ เลย มีก็แค่อาการหายใจไม่ปกตินิดหน่อยๆ แต่ทุกอย่างมันก็ดีจนถึงวินาทีสุดท้าย เราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของสุขภาพ เขาทำให้เราไม่ชะล่าใจ ไม่ลืมที่จะตรวจเช็กสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะดูแลร่างกายอย่างดี แต่ช่วงเวลาที่อ่อนแอมันก็เกิดขึ้นได้”

Avatar photo