Travel Bubble มาแรง “บรรณสาร” ระบุ ประเทศต่างๆ จำนวนหนึ่ง รวมถึงจีน และญี่ปุ่น ต่างแสดงความสนใจที่จะหารือถึงเรื่อง “ระเบียงท่องเที่ยว” หรือ ในช่วงเวลาที่ไทยกำลังพิจารณามาตรการต่างๆ เพื่อที่จะเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งหนึ่ง
นายบรรณสาร บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า มาตรการต่างๆ ที่จะทำให้การเดินทางเป็นไปได้ง่ายขึ้น ในยุคการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย ระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน ที่กำหนดไว้วันที่ 26 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมผ่านระบบประชุมทางไกล หรือ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย โดยมีหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ที่แสดงความสนใจอยากทำความตกลงเรื่อง “ระเบียงท่องเที่ยว” กับไทย
จนถึงขณะนี้ ไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการท่องเที่ยวคือส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของมูลค่าเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ โดย มอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐ คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
ภายใต้มาตรการ ระเบียงท่องเที่ยว นี้ จะเป็นการกำหนดให้นักเดินทาง ที่จะเดินทางระหว่างประเทศที่ทำข้อตกลงกัน สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องมีการกักตัวเพื่อดูอาการนาน 14 วัน แต่ต้องมีการตรวจสอบก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งก่อนเดินทาง และกลับจากการเดินทางแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามาตรการ Travel Bubble จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในการเดินทางระหว่างประเทศ ทั้งระหว่างหรือหลังการระบาดของโควิด-19 โดยพิจารณาจากสถานการณ์การระบาดของประเทศต้นทางและปลายทาง
Travel Bubble(ระเบียงท่องเที่ยว) คืออะไร
Travel Bubble(ระเบียงท่องเที่ยว) คือ มาตรการที่หลายประเทศจะร่วมมือกัน เปิดให้นักท่องเที่ยวของประเทศที่เป็นคู่ตกลงกัน เดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศเหล่านี้ได้อย่างเสรี แต่ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำข้อตกลงกัน
จนถึงขณะนี้ มีประเทศจำนวนหนึ่ง ที่ได้ดำเนินการ “จับคู่” หรือ “จับกลุ่ม” กัน เพื่อทำข้อตกลงระเบียงท่องเที่ยวเช่นนี้ระหว่างกันแล้ว
กลุ่มประเทศที่กำลังทดลองใช้วิธี Travel Bubble(ระเบียงท่องเที่ยว) เป็นกลุ่มแรกคือ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิธัวเนีย ที่เริ่มเปิดให้เที่ยวระหว่างกัน โดยไม่ต้องมีการกักตัว มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ฟินแลนด์ และโปแลนด์อาจเข้าร่วมกลุ่มนี้ด้วยเป็นลำดับถัดไป หากควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศตัวเองได้เป็นที่น่าพอใจ
ตามด้วยประเทศใกล้ๆ ไทย อย่าง จีน กับ สิงคโปร์ และจีน ที่เริ่มทดลองการเดินทางเช่นนี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา และจีนก็กำลังพิจารณา ที่จะใช้มาตรการนี้กับเกาหลีใต้ ด้วย และอาจพิจารณาให้ครอบคลุมไปถึง ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกัน
นอกจากนี้ ยังมี เดนมาร์ก และนอร์เวย์ รวมถึง ออสเตรีย ที่ทำข้อตกลงกับ ลิกเตนสไตน์ สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี ในการทำระเบียงท่องเที่ยว ซึ่งมีกำหนดเริ่มขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็มีรายงานว่า นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียก็กำลังพิจารณามาตรการนี้ร่วมกันอยู่ และอาจทดลองใช้ภายในเดือนกันยายนปีนี้
เพอร์ บล็อก นักวิจัยด้านการเคลื่อนย้ายทางสังคม จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด แสดงความเห็นว่า วิธีดังกล่าวจะใช้ได้ผล ก็ต่อเมื่อมีการร่วมมือกับประเทศใกล้เคียงที่มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ใกล้เคียงกัน และมีวิธีรับมือสถานการณ์โรคระบาดที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
วิธีนี้จะช่วยให้ประชาชนรู้สึกมีอิสระในการเดินทางในระดับหนึ่ง และป้องกันไม่ให้จำนวนผู้ป่วยสูงขึ้น จากการที่นักท่องเที่ยวจากประเทศนอกกลุ่มนำเชื้อเข้ามา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทำความรู้จัก ‘Travel Bubble’ เหตุผลที่เป็นทางรอด ‘ท่องเที่ยว’ ยุคโควิด
- ไทยเอาด้วย ‘Travel Bubble’ เตรียมจับคู่เปิดท่องเที่ยวประเทศปลอดโควิด
- เปิด 5 Wish List นักเดินทางชาวไทย อยากไปเยือนหลัง ‘คลายล็อกดาวน์’
