Economics

แรงงานไทย เฮ! เตรียมส่งแรงงาน 5 หมื่นคนไปทำงานต่างแดน

แรงงานไทย เฮ! “กรมการจัดหางาน” เล็งส่งแรงงาน 52,253 คนไปทำงานต่างแดน หลังสถานการณ์โควิด-19 ยันแรงงานไทยยังเป็นที่ต้องการของนายจ้างในต่างประเทศ

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดี กรมการจัดหางาน เปิดเผยถึง ข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยมอบหมายให้กรมการจัดหางาน เร่งเตรียมความพร้อม ในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ กรมการจัดหางาน ได้วางแผนการจัดส่งแรงงานไทย ไปทำงานต่างประเทศ ในช่วงภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน 2563 ตั้งเป้าหมาย จำนวน 52,253 คน โดยตลาดแรงงาน ที่คาดว่าจะจัดส่งไปทำงาน ได้แก่ ภูมิภาคเอเชีย เช่น ไต้หวัน 20,120 คน ญี่ปุ่น 3,818 คน สาธารณรัฐเกาหลี 6,421 คน มาเลเซีย 2,448 คน และสิงคโปร์ 2,934 คน ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ อิสราเอล 2,840 คน

แรงงานไทย

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวอีกว่า เนื่องจากตลาดแรงงานทั่วโลกต่างยอมรับเรื่องความมีวินัย และทักษะฝีมือของแรงงานไทย ประกอบกับประเทศไทย มีการบริหารจัดการด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ทำให้โอกาสของแรงงานไทย ในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก

“แรงงานไทย ยังคงเป็นที่ต้องการของนายจ้าง ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแรงงานประเภทฝีมือ และกึ่งฝีมือ ที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มมากขึ้น เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศ ในภูมิภาคตะวันออกกลางได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต อิสราเอล” นายสุชาติ กล่าว

นอกจากนี้ งานในภาคบริการ และ โรงแรมในต่างประเทศ ยังคงต้องการแรงงานฝีมือ จากประเทศไทยเข้าไปทำงานด้วย ข้อได้เปรียบในด้านจิตบริการ และอุปนิสัย ขยัน ซื่อสัตย์ และมีวินัย แต่อย่างไรก็ตาม แรงงานไทย ยังคงต้องพัฒนาด้านทักษะทางภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น และ จีน เพื่อเพิ่มโอกาสการได้งานทำในต่างประเทศ

ทั้งนี้ คาดว่า ภาคเอกชน หรือ บริษัทจัดหางาน / องค์กรผู้ส่งที่ได้รับอนุญาต จะมีบทบาทสำคัญในการเร่งการติดต่อกับนายจ้างในต่างประเทศ เพื่อการเดินทางเข้าสู่ตลาดแรงงาน ในต่างประเทศได้ ภายหลังการสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งกรมการจัดหางาน ร่วมกับภาคเอกชน โดยสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ / บริษัทจัดหางาน / องค์กรผู้ส่ง มีกำหนดจะประชุมร่วมกันในวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ณ ห้องอบรมคนหางาน ไปทำงานในต่างประเทศ ชั้น 11 อาคารสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 3 ภายในบริเวณกระทรวงแรงงาน เพื่อวางแผนจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้คลี่คลายลง

แรงงานไทย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงาน ซึ่งแรงงานไทย เป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่ตลาดแรงงาน ในต่างประเทศต้องการ ทั้งในประเทศ ที่เป็นคู่เจรจาเดิม และที่เป็นที่นิยมของแรงงานไทย เช่น ไต้หวัน สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย ญี่ปุ่น อิสราเอล และในภูมิภาคอื่นทั่วโลก ต่างยอมรับเรื่องความมีวินัย และทักษะฝีมือของแรงงาน ประกอบกับประเทศไทย มีการบริหารจัดการโรคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

โดย นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานร่วมกับภาคเอกชน เร่งเตรียมความพร้อมในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ได้ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีโอกาสได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ รวมถึงทักษะด้านภาษา ซึ่งหากการเดินทางระหว่างประเทศสามารถทำได้ตามปกติ สามารถจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศได้ทันที ให้ใกล้เคียงกับเป้าหมายจำนวน 100,000 คน ตามที่ตั้งเป้าไว้ คาดว่าจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศกว่า 140,000 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo