ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดงาน “สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2018” ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม – 2 กันยายน รวบรวมที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์มาไว้เป็นจำนวนมาก ถือเป็นงานแสดงที่สุดแห่งโครงการที่พักอาศัยเหนือระดับ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ครั้งยิ่งใหญ่
ชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า ทางสยามพารากอน ได้รับความร่วมมือจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยจำนวนมากถึง 11 โครงการ นำบ้านพัก คอนโดมิเนียม และที่พักตากอากาศสุดหรูระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มากกว่า 3,000 ยูนิตมาให้ลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ และนักลงทุนที่ต้องการเลือกสินทรัพย์เพื่อหวังผลกำไรในระยะยาว ภายในงานที่จัดขึ้นบริเวณแฟชั่น ฮอลล์ และแฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ข้อเสนอสุดพิเศษในงานนี้ รวมถึง ส่วนลดจากโครงการที่พักอาศัยบนทำเลที่ดีที่สุด ตั๋วเครื่องบินไป-กลับฝูก๊วก ประเทศเวียดนาม พร้อมแพคเกจที่พักสุดหรู และสิทธิพิเศษเมื่อชำระค่าจองผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ
ชนิสา ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศว่า ขณะนี้เติบโตดีมาก ด้วยหลายปัจจัยบวกต่างๆ ที่ส่งสัญญานชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่ส่งผลต่อการวางแผนการลงทุน ให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชน ความคืบหน้าของการคมนาคมโดยเฉพาะการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า 10 สายที่มีการลงมือก่อสร้างอย่างคึกคัก ทำให้ทำเลโดยรอบสถานีได้รับความนิยมอย่างมาก
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กรมผังเมืองเตรียมกำหนดปรับเปลี่ยนสีผังเมืองฉบับใหม่โดยมีหลายพื้นที่ต้องเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) เปรียบเสมือนการวางทิศทางการขยายตัวของเมือง ซึ่งจะช่วยดันมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาโครงการต่างๆ ได้มากขึ้นเมื่อรถไฟฟ้ามาถึง
นอกจากนี้การขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์รองรับผู้สูงวัยในประเทศไทยก็ได้รับความสนใจ และขยายการลงทุนไปมากไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท จากความชัดเจนเป็นรูปธรรมในการกำหนดให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆ ของโลกสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยระยะยาว (Long stay)
ล่าสุดในการเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร สำหรับกลุ่มพำนักระยะยาว (Long Stay Visa) ที่อนุญาตให้พำนักในไทยครั้งที่ 1 ไม่เกิน 5 ปี จากเดิมปีต่อปี และสามารถต่ออายุได้อีก 5 ปี จึงคาดว่ากลุ่มชาวต่างชาติจะให้ความสนใจต่อการอยู่อาศัยหลังเกษียณในประเทศไทยกันมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยด้านวีซ่าที่เคยเป็นอุปสรรคสำคัญหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งได้หมดไปแล้ว
ทั้งยังมีประเด็นสำคัญอื่นๆ เอื้อเฟื้อต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่น หลักประกันชีวิต ประกันสุขภาพตลอดอายุวีซ่า สวัสดิการที่ครอบคลุมจากประเทศต้นทาง ซึ่งได้รับการพัฒนาขับเคลื่อนให้ทันต่อการรองรับกลุ่มผู้สูงวัย
ภาพรวมตลาดที่ดีสร้างความเชื่อมั่นเหล่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการ และดีเวลอปเปอร์ต่างๆ นำกลยุทธ์การตลาดทุกเครื่องมือออกมาสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้อเร่งตัดสินใจ
อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดซื้อไม่ว่าจะเป็นการคำนึงศักยภาพของทำเลที่ตั้ง เส้นทางคมนาคม คุณภาพของวัสดุก่อสร้าง การตกแต่งดีไซน์ สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนการวางกลยุทธ์ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ และการจัดแคมเปญข้อเสนอพิเศษ
ทางฝั่งของผู้ซื้อไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว หรือเพื่ออยู่อาศัย ต่างก็ต้องศึกษารายละเอียดให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ได้ครอบครองที่พักอาศัยในอุดมคติที่ตอบสนองความต้องการของตนเองมากที่สุด