Politics

‘จักรภพ’ ร่ายยาวเครือข่ายเดิมอุ้มฆ่า ‘ต้าร์ วันเฉลิม’ เชื่อตนคือรายชื่อถัดไป

“จักรภพ เพ็ญแข” ร่ายยาวขบวนการอุ้มฆ่า ‘ต้าร์ วันเฉลิม’ เป็นชุดเดิม เชื่อมโยงกับการตายผู้ลี้ภัย 7 คนก่อนหน้านี้ เผยตนคือรายชื่อถัดไปที่อยู่ในลิสต์

จักรภพ เพ็ญแข
จักรภพ เพ็ญแข

เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช, โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร, อดีตผู้ดำเนินรายการชื่อดัง และอดีตแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก จักรภพ เพ็ญแข – Jakrapob Penkair แสดงความคิดเห็นเรื่องการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ (ต้าร์)

นายจักรภพ แสดงความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวโยงกับการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศลาวและกัมพูชา 7 คนก่อนหน้านี้ และการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ก็เป็นฝีมือเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะเห็นนายวันเฉลิมรอดชีวิตกลับมา

ทั้งนี้ โผรายชื่อผู้ที่ต้องถูกอุ้มฆ่าในครั้งนี้มีอยู่ 3 คน คือ นายวันเฉลิม, พันตำรวจเอกศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช, และตนเอง โดยนายวันเฉลิมถูกอุ้มไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายาน 2563 ที่ผ่านมา, พันตำรวจเอกศิวพงษ์ฯ ซึ่งเป็นอดีตรองผู้บังคับการกองปราบฯ ก็ถึงแก่ความตายด้วยการเสพยาเกินขนาดไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน และตอนนี้ก็เหลือตนอยู่เพียงคนเดียว

จักรภพ โพสต์ถึง ต้าร์ วันเฉลิม

ข้อความทั้งหมดจากจักรภพกรณี ต้าร์ วันเฉลิม

“จาก จักรภพ เพ็ญแข

ต้าร์ถูกฆ่า และผลกระทบต่อไทยทั้งประเทศ

ต้าร์ หรือ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกอุ้มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2563 เวลา 17.54 น. กลางกรุงพนมเปญของกัมพูชา เมื่อเราโยงเรื่องนี้ไปสู่การอุ้ม-ฆ่านักสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน 7 ท่านในลาวและเวียดนามก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึง อาจารย์สุรชัย แซ่ด่าน และ คุณชูชีพ ชีวสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวง เราก็มีความหวังน้อยมากที่จะได้เห็นต้าร์รอดชีวิตและได้พบเห็นต้าร์แบบเดิมอีก

ต้าร์เป็นคนเก่ง ฉลาด รื่นเริง นิสัยดี และมีอุดมการณ์ คนที่รู้จักต้าร์จะหัวเราะกับเพจประเภท “กูต้องได้ร้อยล้านจากทักษิณ” ที่ต้าร์ทำ เพราะเขาทำเพื่อประชดประชันเสียดสีฝ่ายตรงข้ามที่ดูแคลนนักประชาธิปไตยว่า รับเงินทองจนเป็นขี้ข้าทักษิณ เพราะในใจจริงๆ แล้ว ซากเดนของระบบอุปถัมภ์พวกนี้ ไม่กล้ายอมรับว่า กองทัพของนักสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองไทยที่เป็นตัวจริงและของจริงมีอยู่มากมายทั่วเมือง จึงต้องร่วมขบวนการตอแหxดูถูกนักสู้และผู้เสียสละ หลอกตัวเองอย่างกบที่ซ่อนตัวในกะลา และยอมให้คนโรคจิตลากชีวิตตัวเองลงสู่ขุมนรก เพราะไม่กล้ายอมรับว่าเวรกรรมกำลังจะตามมาถึงตัวหรือลูกหลานของตัวในไม่ช้า

เมื่อรู้ข่าวต้าร์ถูกเขาฆ่าล้างผลาญ เช่นเดียวกับวีรชนทุกๆ ท่าน จนถึงผู้กล้าจากราชประสงค์ทุกๆ ชีวิตเมื่อ พ.ศ.2553 ผมต้องเสียน้ำตามาก แต่ผมไม่เสียกำลังใจ หัวใจที่ทำท่าจะสลายในเวลาสั้นๆ กลับรวมตัวขึ้นใหม่กลายเป็นหัวใจที่มั่นคงเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม ต้าร์มีอำนาจวิเศษที่ทำให้ผมเศร้าสะเทือนใจ หัวใจสลาย หัวใจฟื้นตัว และเกิดจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคงในห้วงเวลาเดียวกันได้

เขาสั่งฆ่า 3 คนคือ

  • ต้าร์
  • พันตำรวจเอกศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช
  • และตัวผม

ต้าร์ถูกอุ้มไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ พันตำรวจเอกศิวพงษ์ฯ ซึ่งเป็นอดีตรองผู้บังคับการกองปราบฯ ก็ถึงแก่ความตายด้วยการเสพยาเกินขนาดไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน โดยประวัติแล้ว พ.ต.อ ศิวพงษ์ฯ เป็นลูกชายของ พล.ต.ท. คมกฤช พัฒน์พงศ์พานิช อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส) และเคยเป็น รอง ผบก ที่ บช.ปส. 2 ก่อนจะย้ายมาอยู่กองปราบปรามฯ ถูกลากเข้าสู่วังวนของอำนาจและผลประโยชน์ขนาดใหญ่ และสุดท้ายก็ต้องพบเจอชะตากรรมเช่นนี้ ตกลงรายชื่อนี้ก็เหลือตัวผมอีกเพียงคนเดียว และผมก็คงยังไม่ใช่คนสุดท้ายของมหกรรมทำบาปในครั้งนี้

ต้าร์ วันเฉลิม ถูกอุ้ม
ขอบคุณภาพจากประชาไท

เปิดขบวนการอุ้มฆ่า

ปฏิบัติการลับ (covert operation) ครั้งนี้ มีลักษณะที่ซ้ำกับการฆ่า 7 ท่านที่ลี้ภัยไปอยู่ลาวและเวียดนาม นั่นคือ

  1. เลือกเป้าหมายที่ไม่มีกลุ่มอำนาจใดขัดขวาง หรือได้รับการสนับสนุน
  2. ซุ่มซ่อนสังเกตพฤติกรรมของเป้าหมาย
  3. อุ้ม นำตัวไปทำร้ายทรมาน รีดข้อมูลแบบบีบบังคับให้ใส่ร้ายคนอื่นๆ ก่อนจะสังหาญผลาญชีวิต
  4. เมื่อพลาดท่าจนเกิดการออกข่าว อย่างในกรณีของต้าร์ ทีมตอแหxในเมืองไทยที่เป็นบุคคลบ้าง สำนักข่าวบ้าง ก็ออกมาทำหน้าที่สร้างความสับสนในสังคม ออกข่าวเท็จว่าต้าร์ยังไม่ตายบ้าง ตั้งข้อสงสัยนั่นบ้างนี่บ้าง จนถึงขนาดลงทุนออกผลสำรวจประชามติที่ถามนำและเจาะจงถามลงไปยังกลุ่มที่ถูกล้างสมองมาแล้ว เพื่อโฆษณาชวนเชื่อว่าคนส่วนมากไม่เชื่อว่าต้าร์ตายจริง แล้วอาศัยความชุลมุนนี้เอาตัวรอดด้วยการติดตามทำลายหลักฐานที่เขาเข้าถึงได้ เพื่อป้องกันคดีความในอนาคต
  5. ต้าร์ถูกล็อคคอจากด้านหลังในขณะพูดโทรศัพท์กับพี่สาว เขาจึงตะโกนออกมาว่า “โอ๊ย หายใจไม่ออก” ซึ่งตรงตามเหตุการณ์และสมเหตุสมผล แต่ทึมตอแหXในระบบอุปถัมภ์ศักดินาเหล่านี้ ก็ยังทำบาปต่อเนื่องด้วยการออกมาทำท่าทีเยาะเย้ยว่าเรื่องของต้าร์เป็นละครเลียนแบบ จอร์ช ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ถูกตำรวจเมืองมินนีอาโปลิสฆ่าตาย จนกลายเป็นกระแสอันใหญ่หลวงต่อต้านการแบ่งแยกเหยียดหยามมนุษย์ไปทั่วโลกจนถึงเวลานี้
  6. การอุ้มฆ่าจึงหวังให้ไม่มีข่าว แต่เตรียมแผนสำรองไว้ว่า ถ้าเกิดข่าวขึ้นก็ปล่อยข้อมูลเท็จและมีลักษณะขัดแย้งเพื่อให้เกิดความลึกลับสับสน และเผยแพร่ข้อมูลเท็จมาทำลายชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้ถูกฆ่า เพื่อลดความเห็นใจของคนที่ไม่รู้ ก่อนหน้านั้นก็ทำลายร่างและหลักฐานต่างๆ ไปจนหมดสิ้น ให้ดูเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
  7. การดูแคลนว่าต้าร์เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญ จึงไม่มีเหตุผลให้ถูกอุ้มนั้น ก็คือเล่ห์เหลี่ยมส่วนหนึ่งของขบวนการตอแหxทำลายชื่อเสียงเกียรติคุณ คนที่ออกข่าวก็รู้อยู่ในกะโหลกมากกว่าใครๆ ว่า ปฏิบัติการนี้มาจากคำสั่งอันปฏิเสธมิได้ ไม่ต้องมีเหตุผลหรือหลักฐานใดๆ มารองรับ ไม่มีทางอิดออดทัดทานหรือเถียงกลับ ถือเป็นเรื่องของอารมณ์อันวิปลาสและความหลงในอำนาจอย่างหนักโดยแท้

สรุป: การฆ่าต้าร์จึงเป็นงานของเครือข่ายเดิมและด้วยวิธีการเดิม (same team, same team, same techniques)

วันเฉลิม1

จักรภพยันไม่เปลี่ยนเป้าหมาย

เราไม่มีวันยอมให้ชีวิตของต้าร์และวีรชนทั้งหมดของขบวนประชาธิปไตยหมดสิ้นไปอย่างสูญเปล่า แต่เรื่องนี้มีจังหวะเวลาของมัน กรณีหมู่อาร์มออกมาเปิดเผยทุจริตในกองทัพบกอาจมีความสำคัญมากกว่าข่าวที่ออกมา และความเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของสหภาพยุโรปและประเทศที่มิได้เป็นสมาชิก ก็ย่อมมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกัน เขาต้องการให้เราเกิดอารมณ์แค้นและใส่อารมณ์แค้นเข้ามาในการเดินงาน ซึ่งจะทำให้งานนั้นหยาบ บกพร่อง และผิดพลาดง่าย เราจึงบริหารอารมณ์ของเราให้สมดุลเพื่อผลในอนาคต ธรรมในพระพุทธศาสนาช่วยให้สติปัญญากับผมมากในขณะนี้ เช่นเดียวกับที่ให้ผมมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต

ผมไม่ได้ตั้งใจจะเผยแพร่ข้อเขียนเล็กๆ นี้ ในวันที่ 9 มิถุนายน แต่เกิดมาตรงกันพอดีอย่างน่าทึ่ง วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 คือวันที่เกิดกรณีสวรรคตรัชกาลที่ 8 อันเป็นความรุนแรงและแรงเหวี่ยงภายในราชสำนัก และวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2551 คือในอีก 70 ปีเต็มต่อมา ผมเขียนใบลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 ซึ่งต่อมาสำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้สั่งไม่ฟ้องและได้สั่งระงับคดีไปแล้วจนหมดสิ้นทั้ง 2 คดี

การฆ่าและการใช้ความรุนแรงอันเกิดจากโมหะจริตนั้น มีแรงเหวี่ยงแห่งกรรมที่รุนแรง ผลแห่งความชั่วร้ายอาจยาวนานมาส่งผลครอบคลุมในหลายชั่วอายุคน ผู้ที่ปฏิบัติธรรมและมีปัญญา สามารถยับยั้ง ลดความรุนแรง หรือหยุดกรรมชั่วได้ด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถ้าขาดปัญญาและถลำตัวลึกลงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดหนึ่งที่ไม่มีใครช่วยเหลืออะไรได้

 

เป้าหมายของเราไม่มีเปลี่ยนแปลง

  1. พิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นคนของคนไทย
  2. เพิ่มอำนาจและทรัพยากรให้แก่มวลชน ให้เขานำไปใช้พัฒนาตัวเองตามความรู้ความสามารถ
  3. ทลายเพดานแก้วของชนชั้นนำและอำมาตย์ที่จำกัดความเติบโตของลูกชาวบ้านอยู่ จนเกิดโอกาสและทรัพยากรอันเท่าเทียมและเสมอภาค
  4. พัฒนาไทยไปสู่ความเป็นพลโลกที่รับผิดชอบ ใจสูง และมีศักดิ์ศรี
  5. เพิ่มอำนาจป้องกันตัวเองของมวลชนจากการกดขี่ข่มเหง

ต้าร์ และผู้เสียสละเพื่อประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกๆ ท่าน ยังคงเป็นพลังธรรมชาติที่จะช่วยพวกเรานำพามวลชนผ่านมรสุมและคลื่นลมรุนแรงไปจนถึงฝั่ง จนเราทั้งหลายต่างหลุดพ้นจากรัฐนาวาอันเสียสตินี้ได้ในไม่ช้า

ด้วยความรักพี่น้องร่วมอุดมการณ์และมวลชนทุกคน

จักรภพ เพ็ญแข

9 มิถุนายน พ.ศ.2563″

Avatar photo