Politics

นายกฯ พร้อมร่วมมือตามหา ‘วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์’ แต่ญาติต้องบอกว่าอยู่ที่ไหน

นายกฯ เผยยินดีร่วมมือตามหา “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” แต่ครอบครัวต้องบอกว่าอยู่ที่ไหน เปรยเราไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ด้วย

ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จากกรณีที่นาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 37 ปี ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโดมิเนียมกลางกรุงกรุงพนมเปญ โดยทางครอบครัวได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ รัฐบาลไทยและองค์กรนานาชาติที่เกี่ยวข้อง ช่วยดําเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนนั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (9 มิ.ย.) ว่า จริงๆ แล้วตนยังไม่รู้จักนายวันเฉลิมเลย แต่อะไรที่เราร่วมมือได้ เราก็ร่วมมือไป อันที่จริงผมก็ได้สอบถามฝ่ายความมั่นคงว่า คนๆ นี้อยู่ที่ไหน เป็นยังไง ผมไม่เคยรู้จักชื่อเขามาก่อนด้วยซ้ำไป

ก็ทราบว่าเขาหนีไปอยู่ต่างประเทศ ก็ให้ติดตามดูว่าหนีไปด้วยเรื่องอะไร ก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน เขาไปทำอะไรเราก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราคงไม่ไปก้าวล่วงอำนาจของประเทศอื่นๆ เขาก็มีกลไกตรวจสอบของเขา เพียงแต่เห็นว่าจะสอบถามความร่วมมือ ตนก็บอกให้ข้อมูลเขาไป เพราะเราก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ขอให้ความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ด้วยแล้วกัน

วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

สำหรับกรณีที่ครอบครัวเรียกร้องให้รัฐบาลไทยช่วยสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ดำเนินการให้ เพียงแต่ครอบครัวเขาต้องบอกว่า เขาไปอยู่ที่ไหนก่อน ที่ผ่านมาไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไปมีข่าวอยู่ที่โน้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ให้เขาสอบสวน ติดตามอยู่ ก็ให้ความร่วมมือ ยินดีร่วมมือทุกวัน ก็เป็นคนไทย แต่ไปอยู่ต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าได้ประสานกับ พล.อ.เตีย บัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศกัมพูชาในเรื่องนี้แล้วหรือไม่ นายรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่มี ไม่ได้คุยกัน แต่ กระทรวงต่างประเทศ ได้คุยกันแล้ว กระทรวงต่างประเทศและสถานทูตเขาเชื่อมกันอยู่ อะไรเป็นหน้าที่ของใคร ก็ทำไป เรื่องยังไม่ถึงนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นระดับนโบบาย แต่ก็ยินดีให้ความร่วมมือทุกประการ

วันเฉลิม

ครอบครัว76632

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยที่ถูกอุ้มหายในประเทศกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ในนามครอบครัว ถึงองค์การสื่อต่างๆ โดยระบุว่า ในนามของครอบครัว วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เรามีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่วันเฉลิม หรือ ต้าร์ ได้ถูกลักพาตัวโดยการถูกบังคับให้สูญหาย (Enforced Disappearance) ในประเทศกัมพูชาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563 เวลา 17.00 น. โดยประมาณ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอุกอาจท่ามกลางประชาชนจํานวนมาก บริเวณหน้าที่พักของวันเฉลิม

แถลงการณ์ ระบุว่า วันเฉลิม เป็นที่รักของคนในครอบครัวอย่างยิ่ง เขาเป็นคนโอบอ้อมอารี เคารพบิดามารดาและญาติพี่น้อง เป็นคนเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ฉลาดหลักแหลม เห็นอกเห็นใจ และมักจะทําให้ทุกคนที่เข้าใกล้หัวเราะ มีความสุขอยู่เสมอ เพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดี

นอกจากนี้ เขายังเป็นที่รักของเพื่อนฝูงทุกคน เพราะเขาทํากิจกรรมช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด อาชญากรรมสะเทือนขวัญและร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับเขาในครั้งนี้ พวกเราไม่เคยคิดโกรธแค้นใดๆ ต่อผู้ที่กระทําการทั้งสิ้น เรายังหวังลึกๆ และภาวนาว่าทางผู้กระทําการจะปล่อยตัวเขาออกมาในไม่ช้า

ดิฉันจึงขอวิงวอนมา ณ ที่นี้ ให้ผู้ที่ก่อเหตุได้โปรดปล่อยตัววันเฉลิมกลับคืนมาเถิด พวกเราจะตั้งตารอคอยอย่างไม่คิดที่จะสิ้นหวัง ขอเพียงเขากลับมาได้อย่างปลอดภัย พวกเราหวังว่าการอุ้มหายหรือการถูกบังคับให้สูญหายในครั้งนี้จะเป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้น เราขอเรียกร้องให้องค์กรภาครัฐของไทยและองค์กรนานาชาติใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดําเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน เพื่อทําให้ความจริงปรากฏ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และทําให้สังคมไทยตกอยู่ในความหวาดกลัว หวาดระแวง สิ้นหวัง เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่เรารักก็ได้”

วันเฉลิม จําต้องลี้ภัยทางการเมืองอย่างไม่เป็นทางการไปสู่ประเทศกัมพูชาและประเทศอื่นๆ เป็นระยะเวลามากกว่า 6 ปี จะเห็นได้ว่านายวันเฉลิมเป็นผู้รักความยุติธรรม ความถูกต้อง หลักการประชาธิปไตย และยืนขึ้นเพื่อต่อสู้ต่อความอยุติธรรมใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นเสมอ เพียงแต่การยืนขึ้นครั้งนี้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเป็นเดิมพันและเป็นเหตุให้ถูกพรากไป วันเฉลิมเป็นนักพูดตัวยง

อีกทั้งยังเป็นนักกิจกรรม เขาจึงมีความชื่นชมเป็นพิเศษต่อวิสัยทัศน์ของอดีตผู้นําที่มีวิสัยทัศน์หลายๆ ท่าน ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่จะชื่นชอบใครหรือไม่ชื่นชอบใคร เพราะเขาเชื่อว่าแม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างหรือจุดยืนที่ไม่ตรงกัน แต่เรายังอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและรักใคร่ ปรองดองกันได้

วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

ด้านองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์กรณีอุ้มหาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ว่า ขอประณามและต่อต้านการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ต่อประเด็นข้างต้น ได้มีหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องจากอนุสัญญาคุ้มครองบุคคลทุกคน จากการถูกบังคับให้สูญหาย (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance)  ที่ได้ให้ความหมายของการบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือ “การอุ้มหาย” ว่าหมายถึง “การจับกุม การคุมขัง การลักพาตัว หรือ การลิดรอนเสรีภาพรูปแบบอื่น ที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการภายใต้อำนาจหรือการสนับสนุนหรือการยอมรับจากรัฐ ตามด้วยการปฏิเสธไม่รับรู้การลิดรอนเสรีภาพดังกล่าว หรือโดยการปกปิดชะตากรรมหรือที่อยู่ของผู้สูญหาย ทำให้ผู้สูญหายอยู่นอกการคุ้มกันของกฎหมาย”

แม้ไทยจะมิได้เข้าร่วมเป็นรัฐภาคี แต่ก็ได้มีการลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวไปแล้วมาตั้งแต่ปี 2555 อันถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของไทยที่มีความตั้งใจจริงในการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครอง ตลอดจนใส่ใจต่อปัญหาการอุ้มหาย อีกทั้งตามกฎหมายภายในและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยมีอยู่ ได้แก่ มาตรา 28 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้อ 3 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) และข้อ 6 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) นั้น ต่างก็ได้รับรองสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนมีมาตั้งแต่กำเนิด

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo