World News

คนผิวสีเช่น ‘จอร์จ ฟลอยด์’ กว่าพันคน เสียชีวิตจากเงื้อมมือตำรวจสหรัฐทุกปี

มูลนิธิเนลสัน แมนเดลา ประณามกรณี “จอร์จ ฟลอยด์” เผยทุกปี “คนผิวสี” มากกว่า 1,000 คน ต้องเสียชีวิตจากเงื้อมมือตำรวจในสหรัฐ

จอร์จ ฟลอยด์

มูลนิธิเนลสัน แมนเดลา ได้ประณามความโหดร้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อคนผิวสีในสหรัฐ จากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา

มีคนผิวสีมากกว่า 1,000 คนเสียชีวิตด้วยเงื้อมมือของตำรวจในสหรัฐทุกปี” มูลนิธิระบุเสริม “มีการกวาดต้อนกักขังผู้คน การออกตรวจพื้นที่โดยคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า การเฝ้าระวังแบบจำเพาะเจาะจง และการใช้เครื่องมือหลากหลายที่ทำให้ชีวิตคนผิวดำตกอยู่ในอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่นทั้งหมด”

ฟลอยด์ วัย 46 ปีเสียชีวิตหลังจากนายเดเรก ชอวิน (Derek Chauvin) เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เข่ากดลงที่คอของเขาเป็นเวลาเกือบ 9 นาที โดยผลการชันสูตรศพ 2 ครั้งที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (1 มิ.ย.) ระบุว่า การเสียชีวิตของฟลอยด์เกิดจากการฆาตกรรม

การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐทำให้หลายสิบเมืองในประเทศแห่งนี้ต้องประกาศเคอร์ฟิว

มูลนิธิเนลสันแมนเดลา อันเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งโดยเนลสัน แมนเดลา ในปี 2542 เพื่อส่งเสริมเสรีภาพและความเสมอภาค ได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มคนผิวขาวซึ่งมีอำนาจสูงสุดประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ

“ชีวิตคนผิวดำมีความสำคัญมากพอจะเป็นเหตุผลให้เกิดการออกมาเดินขบวนบนท้องถนนและการเรียกร้องให้ยุติระบบที่สร้างเงื่อนไข (และการทำให้ชอบด้วยกฎหมาย) สำหรับการใช้ความรุนแรงต่อคนผิวดำ” แถลงการณ์ระบุ

รำลึก จอร์จ ฟลอยด์ ในนิวยอร์ก

นิวยอร์กรำลึกถึง จอร์จ ฟลอยด์

เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) ชาวนิวยอร์กหลายพันคนยังได้รวมตัวกันจัดพิธีรำลึกถึงฟลอยด์ ซึ่งการเสียชีวิตของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นชนวนเหตุของการประท้วงทั่วสหรัฐ รวมถึงประเทศอื่นๆ เพื่อต่อต้านการกระทำที่โหดร้ายของตำรวจและการเหยียดเชื้อชาติ

เทอร์เรซ ฟลอยด์ (Terrace Floyd) พี่ชายของฟลอยด์ เข้าร่วมพิธีรำลึกร่วมกับประชาชนอีกราว 5,000 คน ที่สวนสาธารณะแคดแมน พลาซา (Cadman Plaza) ในเขตบรุกลิน นครนิวยอร์ก โดยได้สวมเสื้อที่มีรูปของจอร์จ ฟลอยด์ และกล่าวขอบคุณชาวนิวยอร์กที่ออกมาแสดงความรักต่อน้องชายของเขา

เขากล่าวว่าเขาภูมิใจในตัวผู้ประท้วง แต่ไม่ภูมิใจกับการสร้างความเสียหาย ซึ่งหมายถึงความรุนแรงต่างๆ และการบุกปล้นที่เกิดขึ้นระหว่างการประท้วง “น้องชายของผมคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น”

นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก พูดคุยกับพี่ชายของจอร์จ ฟลอยด์ ณ พิธีรำลึกถึงจอร์จ ฟลอยด์ ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563

นอกจากนั้นยังมีบรรดาเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นร่วมสังเกตการณ์ อาทิ บิลล์ เดอ บลาซิโอ (Bill de Blasio) นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก และเลทิเทีย เจมส์ (Letitia James) อัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์ก

“ฟลอยด์ จะต้องไม่จากไปอย่างไร้ค่า… เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ สำหรับครอบครัวของฟลอยด์นั้น เราจะยืนหยัดเคียงข้างคุณ ชีวิตคนดำก็สำคัญในนครแห่งนี้ ชีวิตคนดำก็สำคัญในสหรัฐ” นายกเทศมนตรีกล่าว

จากนั้นเทอร์เรซ ฟลอยด์ เดินนำผู้ประท้วงข้ามสะพานบรุกลินสู่จัตุรัสโฟลีย์ (Foley Square) ในแมนฮัตตัน ภายใต้แสงแดดที่ร้อนระอุ

ด้านแอนดรูว์ คัวโม (Andrew Cuomo) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ออกมาแถลงข่าวในวันเดียวกัน เพื่อขอให้ประชาชนทั่วนิวยอร์กร่วมกันสงบนิ่งเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อ 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับพิธีไว้อาลัยแก่ฟลอยด์ที่จัดขึ้นในมินนิแอโพลิส ซึ่งเป็นเมืองที่ฟลอยด์เกิดและเสียชีวิต

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) นครนิวยอร์กซึ่งเกิดเหตุประท้วงด้วยจุดประสงค์เช่นเดิมมานานกว่า 1 สัปดาห์ เข้าสู่มาตรการเคอร์ฟิวเป็นคืนที่ 4 ตั้งแต่ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ที่มา : สำนักข่าวซินหัว

Avatar photo