World News

ผลชันสูตรชี้ ‘จอร์จ ฟลอยด์’ ติดโควิด-19 ก่อนตาย

ผลชันสูตรศพชี้ “จอร์จ ฟลอยด์” มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก หลายสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

เอกสารชันสูตรศพ ความยาว 20 หน้า ที่สำนักงานตรวจสอบทางการแพทย์ เขตเฮนเนปิน ในเมืองมินิแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ของสหรัฐ เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า ผลการตรวจสอบหาเชื้อไวรัสของฟลอยด์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน ได้ผลออกมาเป็นบวกสำหรับรหัสพันธุกรรมไวรัส หรือ RNA

XxjinmC007021 20200528 CBMFN0A002

รายงานอธิบายว่า RNA สามารถอยู่ในร่างกายของคนเราได้นานหลายสัปดาห์ หลังจากที่หายป่วยจากโรคแล้ว ซึ่งผลบวกในการทดสอบครั้งที่ 2 หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว มีแนวโน้มที่จะแสดงให้เห็นว่า การติดเชื้อของฟลอยด์ วัย 46 ปี น่าจะเป็นผลมาจากการติดเชื้อก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม

ก่อนหน้านี้ ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคติดต่อสหรัฐ (CDC) เคยระบุไว้ว่า การตรวจ RNA เป็นบวก ไม่จำเป็นต้องหมายความว่า บุคคลนั้นติดเชื้อ  ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า ฟลอยด์ได้แสดงอาการของโรคในช่วงต้นปีนี้หรือไม่ หรือว่าตัวเขาเป็นแค่พาหะเท่านั้น

ทั้งนี้ จอร์จ ฟลอยด์ กลายมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก จากคลิปวีดิโอขณะที่ตัวเขาถูกจับกุม โดยถูกกดให้นอนคว่ำหน้ากับพื้น มือถูกสวมกุญแจมือไพล่หลังอยู่ และมีนายตำรวจผิวขาวรายหนึ่ง ที่ต่อมาทราบชื่อเดเรค ชอวิน ใช้เข่ากดอยู่บริเวณคอของฟลอยด์  นานกว่า 9 นาที โดยไม่สนใจคำร้องขอของฟลอยด์ ที่บอกกว่าเขาหายใจไม่ออก จนกระทั่งเขาหมดสติ ก่อนที่จะมีประกาศในเวลาต่มาว่า เขาเสียชีวิต

ล่าสุด สำนักงานอัยการสูงสุด ของมินนิโซตา ยังสั่งปรับข้อหาชอวิน  ให้มีโทษหนักขึ้น จากเดิมที่ทางการตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน (third degree murder) มาเป็นทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยมีเจตนา แต่ไม่ได้วางแผนก่อนล่วงหน้า (second degree murder) ซึ่งจะทำให้เขาต้องรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปี ซึ่งมากกว่าโทษเดิมถึง 15 ปี พร้อมทั้งตั้งข้อหาตำรวจอีก 3 นายที่เกี่ยวข้องกับการตายของฟลอยด์ จากเดิมที่ทั้ง 3 ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาจากเรื่องนี้แต่อย่างใด

Avatar photo