World News

จับตาสหรัฐ-จีนบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบ 2

รัฐบาลสหรัฐและจีนเตรียมบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 ในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์วันนี้ ขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาการค้า

cccj

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่นี้มีขึ้น หลังเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้กลับด้วยการเก็บภาษีเพิ่มเติมในวงเงินเท่ากัน

จากนั้นสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าก็ยังไม่ส่งสัญญาณคลี่คลายลง โดยทรัมป์ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% จากเดิมในอัตรา 10% คิดเป็นวงเงินรวม 200,000 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร เนื่องจากสหรัฐมองว่าจีนมีพฤติกรรมขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยี โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมดังกล่าวคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน

ทรัมป์ กล่าวต่อที่ชุมนุมที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนียว่า “ผมนับถือประธานาธิบดีสีด้วยความเคารพอย่างสูง ผมเคารพและคำนึงถึงประเทศจีนเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาเอาเปรียบเรามาหลายทศวรรษแล้ว”

ผู้นำสหรัฐยังได้เรียกร้องให้จีนยกระดับการเข้าถึงตลาดและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้กับบริษัทของสหรัฐ ยกเลิกการให้เงินอุดหนุนในภาคอุตสาหกรรม และลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐที่ปรากฏให้เห็นมาเป็นเวลานานและมีจำนวนมาก

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนทั้งสิ้น 375,230 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐกับประเทศอื่นๆทั่วโลก

ทั้งนี้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในวงเงิน 200,000 ล้านดอลลาร์จริง ก็จะเท่ากับว่าสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งจากที่นำเข้าจากจีนทั้งหมดในแต่ละปี

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight