สำนักงบประมาณคาดไวรัสโควิด-19 ส่งผล “เศรษฐกิจสหรัฐ” หดตัวเกือบ 8 ล้านล้านเหรียญ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา สํานักงานวิเคราะห์และติดตามการใช้งบประมาณแห่งรัฐสภา (CBO) ของสหรัฐ เผยแพร่รายงานการคาดการณ์ฉบับใหม่ซึ่งระบุว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐ หดตัวลง 7.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 249 ล้านล้านบาท ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ฟิลลิป สเวเกิล (Phillip Swagel) ผู้อำนวยการของสำนักงานฯ ตอบรับคำขอของชาร์ลส์ ชูเมอร์ (Charles Schumer) ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาของสหรัฐ และระบุในรายงานว่า มูลค่าผลผลิตจริงสะสมของสหรัฐช่วงปี 2563-2573 จะต่ำกว่าที่สำนักงานฯ คาดการณ์ไว้ในเดือนมกราคมประมาณ 7.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 249 ล้านล้านบาท เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ซึ่งหมายความว่าจีดีพีจริงสะสมของสหรัฐจะลดลง 3% ในช่วงทศวรรษหน้า
รายงานระบุว่า “เราคาดการณ์ว่า การสั่งปิดธุรกิจและมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมจะส่งผลให้ปริมาณการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดต่ำลง ขณะเดียวกันราคาพลังงานที่ลดลงเมื่อไม่นานมานี้จะทำให้ปริมาณเงินลงทุนในภาคพลังงานของสหรัฐลดลงอย่างฮวบฮาบ” และเสริมว่ากฎหมายใหม่ของรัฐสภาสหรัฐ จะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ ได้บางส่วน
รายงานระบุว่าการคาดการณ์ เศรษฐกิจสหรัฐ เหล่านี้มี “ความไม่แน่นอนในระดับสูงผิดปกติ” โดยเฉพาะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในปีนี้ รวมถึงปีต่อไป
“หากนโยบายในอนาคตของรัฐบาลกลางแตกต่างจากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของสำนักงานฯ เช่น สมาชิกสภานิติบัญญัติออกกฎหมายเกี่ยวกับการแพร่ระบาดเพิ่มเติม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็จะเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ของสำนักงานฯ ในปัจจุบัน”
เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานการประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 หดตัวลงด้วยอัตรา 5% ต่อปี ต่ำกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้า 0.2 จุด
สถิติที่ปรับลดใหม่ยังไม่ครอบคลุมความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่เกิดจากโรคโควิด-19 โดยนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐ จะยิ่งดิ่งลงในไตรมาสที่ 2 ของปี
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลายคนแสดงความหวังว่าเศรษฐกิจจะดีดตัวกลับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 แต่นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวเตือนว่า การเร่งเปิดเศรษฐกิจอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกสอง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวย่ำแย่ลงอีกครั้ง
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
