World News

ประท้วง ‘จอร์จ ฟลอยด์’ สกัดขาขึ้น ‘หุ้นสหรัฐ’

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (1 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในช่วงหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 25,431.92 จุด เพิ่มขึ้น 48.81 จุด หรือ 0.19% ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ที่ 3,048.20 ขยับขึ้น 3.89 จุด หรือ 0.13% และดัชนีแนสแด็กที่ 9,521.24 จุด บวก 31.36 จุด หรือ 0.33%

stocknyse

แม้จะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ตลาดถูกกดดันจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง เพื่อตอบโต้จีนที่ได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกง

อย่างไรก็ดี นักลงทุนคลายวิตก หลังทรัมป์ไม่ได้กล่าวว่า เขาจะนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทำไว้กับจีนในต้นปีนี้

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น โรงแรม สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดในวันนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากที่ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตและภาคบริการยังคงมีการขยายตัวในเดือนพฤษภาคม

ตลาดจับตาสถานการณ์ความวุ่นวายในสหรัฐ หลังประชาชนต่างลุกฮือประท้วงการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อชายผิวสีคนหนึ่งจนเสียชีวิต  ซึ่งล่าสุด  40 เมืองทั่วสหรัฐได้ประกาศเคอร์ฟิว หลังเกิดเหตุจลาจล ทั้งการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ การเผารถยนต์ และการทุบกระจกร้านค้า ท่ามกลางความไม่พอใจต่อการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อนายจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเป็นชายผิวสี จนเสียชีวิต

การเสียชีวิตของนายฟลอยด์ได้กลายเป็นข่าวโด่งดังในโลกโซเชียล โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในรัฐมินนิโซตาได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ หลังสงสัยว่านายฟลอยด์พยายามจะซื้อของในร้านด้วยธนบัตรปลอม และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้จับนายฟลอยด์ใส่กุญแจมือ และผลักเขาให้นอนคว่ำลงกับพื้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งใช้เข่ากดลงบนคอของนายฟลอยด์และทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ซึ่งขณะนั้นนายฟลอยด์พยายามร้องบอกตำรวจว่า “ผมหายใจไม่ออก ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก” ก่อนที่เขาจะหมดสติไป และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยรายงานระบุว่า นายฟลอยด์ได้เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล

Avatar photo