COVID-19

‘นายกฯ’ ไม่ค้านตั้ง ‘กมธ.’ เช็คความโปร่งใส ‘พ.ร.ก.กู้เงิน’

“นายกฯ” ไม่คัดค้านตั้ง “กมธ.” เช็คความโปร่งใส “พ.ร.ก.กู้เงิน” ถ้าทำแล้วได้รับความไว้วางในมากขึ้น

ประยุทธ์2756312

วันนี้ (31 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ เพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 3 ว่า การประชุมถือว่าเรียบร้อยดี ในส่วนที่เป็นกังวลก็ได้ชี้แจงไปบ้างแล้ว และรองนายกรัฐมนตรีก็ชี้แจงได้ดี แต่มีหลายอย่างที่จะนำไปพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น วันนี้เราต้องปรับรูปแบบการฟัง การพูด และการอภิปรายบ้าง ไม่เช่นนั้นก็จะสับสนอลหม่าน ประชาชนฟังแล้วไม่เข้าใจ และยิ่งทำให้การเดินหน้าไปได้ช้า

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมองว่าเงินที่กู้มาแล้ว มีเหตุผลความจำเป็นอะไร และมีมาตรการในการใช้อย่างไร ที่เหลือจากนี้คือการคัดกรองโครงการ และการจัดทำโครงการที่ผ่านการคัดกรองมาจากข้างล่างระดับหนึ่งแล้ว และนำเข้าคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ถ้าใครไม่ไปก้าวล่วง เมื่อประชาชนเสนออะไรมาก็ต้องตรวจสอบว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร และจะตรวจสอบจากงานที่ปรากฎและร้องทุกข์กล่าวโทษไป เหมือนการจัดซื้ออุปกรณ์ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องผิดกฎหมาย ตนไปสั่งให้กฎหมายทำงานไม่ได้ เพราะกฎหมายต้องทำงานด้วยตัวมันเอง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การประชุมสภา พิจารณาร่างงบประมาณ พ.ศ. 2566 1

สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ขัดข้องกับข้อเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.เงินกู้นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องการพิจารณาในระยะต่อไป จะมาถามอะไรตอนนี้ ก็บอกว่าไม่ขัดข้องหากพิจารณากันแล้วจากในงานของสภาฯ ถ้าสามารถตั้งได้ก็ตั้งได้ แต่ในพรรคก็ต้องร่วมกันหารือว่าจะตั้งหรือไม่ตั้งอย่างไร ไม่ได้ขัดข้อง และไม่ได้คัดค้านอะไรทั้งสิ้น ถ้าทำให้ดีขึ้นและได้รับความไว้วางใจมากขึ้น แต่ต้องไม่ทำให้ชักช้าจนไม่ทันการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความล่าช้าและจะไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน เพราะมีเงินแต่ออกไปทีหลัง ก็เหมือนเขาหมดลมไปแล้ว จึงต้องให้ตอนนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบเรื่องนี้เช่นเดียวกันนั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาต้องทำอยู่แล้ว หน่วยงานต้องตั้งหลักของเขาอยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่กู้เงินมาทำงานแบบนี้ แต่ก่อนเป็นการกู้ทางโน้นทางนี้ไปลงทุนอะไรต่างๆ เช่น สมัยที่เกิดต้มยำกุ้งก็คนละแบบ เสถียรภาพทางการเงินก็คนละอย่าง

และประเทศไทยวันนี้สถานะการเงินเราเข้มแข็งมาก จึงคลายกังวลในเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะยาวไปแค่ไหน และวันหน้าต้องหาเงินเพิ่มหรือเปล่ายังไม่รู้ อย่างน้อยเงินตรงนี้ก็ต่อลมหายใจให้ประชาชน ให้เดินหน้าต่อไปได้ ลูกจ้างพนักงานไม่ตกงาน ถ้าตกงานมากรัฐบาลจะดูแลเดือนละ 5,000 จะพอไหม แต่ทำให้เขากลับมาทำมาหากินได้เหมือนเดิมไม่ดีกว่าเหรอ สิ่งที่แตกต่างกันคือตรงนี้

Avatar photo