สำหรับยุคดิจิทัล เชื่อว่าหลายคนคงมีประสบการณ์การซื้อประกันภัยผ่านออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้คนตัดสินใจเลือกช่องทางออนไลน์นั้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากค่าเบี้ยประกันภัยที่ว่ากันว่า “ถูกลง” เนื่องจากไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ อย่างไรก็ดี สำหรับวงการประกันภัย วันนี้ได้มีการจับมือเป็น Exclusive Partner ของแพลตฟอร์มตลาดนัดออนไลน์อย่าง Kaidee กับอลิอันซ์ ประกันภัย ขึ้นมาอีกหนึ่งราย เพื่อหาโซลูชันในการนำแผนประกันภัยไปอยู่บนโลกออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมภายใต้การวิเคราะห์ข้อมูลของ BigDataโดยนางสาวศิรินทิพย์ โชติธรรมาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อลิอันซ์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ที่ผ่านมา อลิอันซ์ ประกันภัยมีผู้ถือกรมธรรม์กว่า 380,000 ราย และมีพนักงานทั้งสิ้น 250 คน แต่การขายประกันของอลิอันซ์ ประกันภัยนั้นใช้ช่องทางแบบเดิมมาตลอด (ผ่านตัวแทน หรือโบรกเกอร์) หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่เคยเข้ามาสู่ธุรกิจออนไลน์เลย แต่แล้วทางอลิอันซ์ ประกันภัยก็พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่นั้นเริ่มเปลี่ยนไปสู่การซื้อของออนไลน์มากขึ้น ซึ่งการซื้อของออนไลน์นั้นยังต้องเป็นแบบซื้อได้ทันที ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงความต้องการได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว ทางบริษัทจึงมองว่า การขยายช่องทางการขายมาสู่โลกออนไลน์จึงน่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบกับธุรกิจประกันภัยอื่น ๆ ที่มักลงทุนสร้างเว็บไซต์และโปรโมตให้คนรู้จักนั้น ทางอลิอันซ์ ประกันภัยกลับมองไปในทิศตรงกันข้าม โดยเลือกจับมือกับแพลตฟอร์มของ Kaidee แทน ในจุดนี้ นางสาวศิรินทิพย์ให้เหตุผลว่า เพราะ Kaidee มีลูกค้าที่เข้ามาใช้งานบนแพลตฟอร์มอยู่แล้ว 7 ล้านคนต่อเดือน จึงมองว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับทางอลิอันซ์ ประกันภัยได้มากกว่าการจะออกไปลงทุนสร้างเอง และทำการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้คนรู้จัก
นอกจากนั้น สิ่งที่ผู้บริหารอลิอันซ์ ประกันภัย มองอีกข้อก็คือ การอยู่บนออนไลน์แพลตฟอร์มนั้น จะทำให้แบรนด์ได้รับทราบข้อมูลของลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลนี้บริษัทสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อให้สามารถเสนอขายสินค้าได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา และถูกคนได้อีกต่อหนึ่ง ขณะที่ช่องทางการขายอื่น ๆ ทำไม่ได้ จึงมองว่าหากนำผลิตภัณฑ์เช่น ประกันรถยนต์ ประกันบ้านและทรัพย์สิน ประกันภัยการเดินทาง และประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล มาเสนอขาย ก็อาจเป็นการทดสอบตลาดที่น่าสนใจมากแนวทางหนึ่ง
ด้านการเปิดเผยของนายทิวา ยอร์ค ระบุว่า Kaidee มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีหมวดหมู่ของสินค้าแล้ว 316 หมวด และในปีที่ผ่านมา สามารถขายสินค้าบนแพลตฟอร์มได้มากกว่า 1.85 ล้านชิ้น จากผู้ลงประกาศสินค้า 1.1 ล้านคน ส่วนรายได้ที่ Kaidee ได้รับมาในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2561 นั้นโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 71% โดยสิ่งที่ทำรายได้ให้กับ Kaidee เป็นอันดับต้น ๆ ก็คือ Top Ads หรือการซื้อพื้นที่เด่น ๆ บน Kaidee เพื่อวางโฆษณาสินค้านั่นเอง
ส่วนหมวดหมู่สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงบนแพลตฟอร์มนั้น ประกอบด้วย
- รถยนต์
- รถมอเตอร์ไซค์
- อสังหาริมทรัพย์
- โทรศัพท์มือถือ – Gadget
- อะไหล่รถยนต์
- พระเครื่อง
ส่วนการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับอลิอันซ์ ประกันภัยนั้น Kaidee ระบุว่า เป็นแค่พาร์ทเนอร์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟเท่านั้น Kaidee ไม่ได้เป็นโบรเกอร์ แค่ศึกษาและหาทางว่าจะใช้ BigData นำเสนอประกันภัยให้กับลูกค้าอย่างไรจึงจะถูกที่ ถูกเวลา และถูกคน
สิ่งที่จะเกิดตามมาจากการใช้ BigData ร่วมกันของสองบริษัทก็คือการเสนอเบี้ยประกันภัยแบบ Personalized มากขึ้นตามพฤติกรรมของผู้ซื้อประกัน ยกตัวอย่างเช่น ประกันภัยรถยนต์ ที่จากเดิม รถยนต์รุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ควรจะมีค่าเบี้ยประกันภัยเท่ากัน แต่ต่อไปนี้ เมื่อมี BigData เข้ามาเสริม ก็เป็นไปได้ว่า ค่าเบี้ยประกันภัยนั้น อาจไม่ต้องจ่ายเท่ากันอีกต่อไปแล้วนั่นเอง
โดยสัญญาการเป็น Exclusive Partner ครั้งนี้มีเวลา 3 ปีถ้วน ส่วนผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยที่จะนำลงมาขายบนแพลตฟอร์มนั้น คาดว่าจะได้เห็นกันบน Kaidee ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
