“อดีตประธานสหภาพฯ” เผยพนักงานการบินไทยยังสับสน ไม่ได้รับแจ้งเรื่องลดเงินเดือน คาด “รักษาการ DD” ไม่กล้าเซ็นหวั่นปมข้อกฎหมาย อาจร้ายแรงถึงขั้นแผนฟื้นฟูล่ม
นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าวเรื่องคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการลดผลตอบแทนและเงินเดือนของพนักงานต่อไปอีก 1 เดือนว่า การบินไทยยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดหรือส่งเอกสารใดๆ มายังพนักงานอย่างเป็นทางการว่า จะมีการขยายเวลาการปรับลดเงินเดือนหรือไม่
มีเพียงนายโอม พลาณิชย์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล แจ้งข่าวผ่านผ่านไลน์พนักงานการบินไทยอย่างไม่เป็นทางการว่า ขอให้พนักงานช่วยกันแจ้งต่อว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทจะยังให้พนักงานทุกคนทำงานเหมือนเดิม โดยผู้บังคับบัญชาเป็นผู้มอบหมายให้ปฏิบัติงานได้ทั้งที่สำนักงานและการทำงานที่บ้าน ซึ่งบริษัทจะเปิดตึกแบบเดิมในวันพุธกับพฤหัสบดี พร้อมสำนักงานแพทย์และ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล โดยไม่มีการแจ้งเรื่องการขยายเวลาปรับลดเงินเดือนแต่อย่างใด
“ขณะนี้พนักงานไม่รู้เลยว่าจะถูกลดเงินเดือนต่อหรือไม่ เพราะไม่มีการแจ้งใด ๆ เลย แต่หากบอร์ดใหม่มีมติขยายเวลาลดเงินเดือน จะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาแน่นอน เพราะเมื่อบริษัทเป็นเอกชน บอร์ดไม่สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 13(2) ตามพ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 มาลดเงินเดือนพนักงานได้” นายนเรศกล่าว
- แจ้งด่วน! การบินไทยสั่งลดเงินเดือน – Work From Home ต่ออีก 1 เดือน
- ‘บอร์ดการบินไทย’ ถกมาราธอนเกือบ 9 ชั่วโมง เคาะปมลดเงินเดือนพนักงาน
นายนเรศกล่าวต่อว่า ด้านตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) การบินไทย ก็จะหมดอำนาจที่เคยมีตามตามพ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 ด้วย จึงอาจทำให้ไม่กล้าลงนามและออกจดหมายแจ้งมติบอร์ดเป็นทางการ
ถ้ารักษาการดีดีใช้อำนาจในการลงนามประกาศการขยายเวลาปรับลดเงินเดือนพนักงาน ก็อาจผิดกฎหมาย เพราะใน พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 หรือ พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 นายจ้างประกาศลดเงินเดือนหรือลดสิทธิสภาพการจ้างพนักงานโดยฝ่ายเดียวมิได้ ต้องได้รับความยินยอมจากฝ่ายตัวแทนฝ่ายลูกจ้างก่อน แต่ตอนนี้การบินไทยไม่มีสหภาพฯ แล้ว ไม่มีฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายลูกจ้างก็ยังไม่ได้ยินยอม
นอกจากนี้ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการ DD คนปัจจุบัน ยังมีหลายสถานะมาก ได้แก่ รักษาการดีดี, บอร์ดบริหาร ซึ่งเป็นผู้เสนอเรื่องการปรับลดเงินเดือนพนักงานให้บอร์ดพิจารณา, ผู้บริหารแผนฟื้นฟู และยังเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทการบินไทย
ก่อนที่รักษาการ DD จะลงนามในประกาศลดงินเดือน จึงต้องพิจารณาประเด็นข้อขัดแย้งในตำแหน่งหน้าที่ และประเด็นความถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายก่อน เพราะหากมีจดหมายแจ้งทางการเรื่องขยายเวลาลดเงินเดือนเมื่อไหร่ ตนจะใช้อำนาจส่วนบุคคลตามกฎหมายฟ้องศาลแน่นอน ในข้อหาละเมิดสิทธิ์สภาพการจ้างงาน ซึ่งอาจจะส่งผลให้แผนฟื้นฟูถึงกับล่มได้
