Politics

บ้านมั่นคงเฮ! ‘จุติ’ แจ้งพอช.ยืดพักชำระหนี้ ‘เงินต้น-ดอกเบี้ย’ อีก 3 เดือน

ข่าวดี! “จุติ ไกรฤกษ์ “เผยพอช.แจ้งขยายเวลาพักชำระหนี้ มาชิกโครงการบ้านมั่งคง ออกไปอีก 3 เดือน ไปจนถึงเดือนก.ย.นี้ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 แสนครัวเรือน

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย รัฐบาลจึงมีนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ ออกมาตรการช่วยเหลือ และลดผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ส่วนของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.  หน่วยงานสังกัดพม. ทำงานกับชุมชนและเครือข่ายชาวบ้าน  มีมาตรการผ่อนผันให้สหกรณ์และสมาชิกโครงการบ้านมั่นคงทั่วประเทศ ที่ใช้สินเชื่อพอช. ไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ พอช. นาน 3 เดือน ช่วงแรกเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับองค์กรชุมชนเกือบ 1.2 แสนครัวเรือน

พอช. e1590894749288

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ที่ประชุมบอร์ด พอช. เห็นชอบการขยายเวลาการพักชำระหนี้เพิ่มต่ออีก 3 เดือน จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563  ให้แก่สหกรณ์และสมาชิกโครงการบ้านมั่นคงทั่วประเทศ  เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย โดยไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งจะมีผู้ที่ได้รับประโยชน์ครั้งนี้กว่า 1 แสนครัวเรือน ประมาณ 5 แสนคน

พอช.1

สำหรับการพักชำระหนี้โครงการบ้านมั่นคงช่วงแรกตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ทางพอช. อนุมัติพักชำระหนี้ทั้งสิ้น 395 องค์กร รวมจำนวน 119,956 ครัวเรือน ต้นเงินคงเหลือ 4,009 ล้านบาท โดยดอกเบี้ยที่พอช. ไม่ได้รับปี 2563 รวม 37.25 ล้านบาท  หากขยายเวลาพักชำระหนี้ออกไปอีก 3 เดือน ดอกเบี้ยที่พอช.  จะไม่ได้รับจะเพิ่มเป็น 74.50 ล้านบาท องค์กรที่ขอพักชำระหนี้ 395 องค์กร คิดเป็น 79.48%  ขององค์กรผู้ใช้สินเชื่อที่อยู่ในเกณฑ์พักชำระหนี้ได้ ส่วนองค์กรที่ไม่ขอพักชำระหนี้ทั้งสิ้น 102 องค์กร

สมชาติ ภาระสุรรณ ผอ.พอช.
สมชาติ  ภาระสุวรรณ

นายสมชาติ  ภาระสุวรรณ  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวว่า สถาบันฯ ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยแก่องค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อ ‘โครงการบ้านมั่นคง’  ที่เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2546 โดยมีเจตนารมณ์ที่จะทําให้เกิดความมั่นคงในการอยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยในชุมชนเมืองและชนบท

“ปัจจุบันโครงการบ้านมั่นคงดำเนินการแล้วทั่วประเทศ 1,231โครงการ จำนวน 112,777 ครัวเรือน ทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม  และมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตต่างๆ  เช่น  ส่งเสริมอาชีพ  ปลูกผักสวนครัวเพื่อลดรายจ่ายมีกิจกรรมเด็กและเยาวชน การจัดการขยะ  บำบัดน้ำเสีย  การดูแลสิ่งแวดล้อม”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight