ต้องบอกว่าช่วงนี้ หัวเว่ย (Huawei) บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากจีนมีความท้าทายให้ต้องเผชิญหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์สำหรับใช้งานตามบ้านในราคาประหยัดในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าสนนราคาของแผงโซลาร์เซลล์นั้นอาจอยู่ระหว่าง 100 – 200 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 – 1,500 ดอลลาร์ แต่กลับเจอกำแพงภาษีของรัฐบาลโดนัลทรัมป์เข้าอย่างจัง จนอาจเสียเปรียบคู่แข่ง กับการถูกจับโป๊ะได้ว่า แท้จริงแล้ว เบื้องหลังภาพสุดสวยในโฆษณามาจากกล้อง DSLR หาใช่กล้องจากสมาร์ทโฟนอย่างที่ควรจะเป็นไม่
โดยสำหรับประเด็นแรก อย่างการเปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์นั้น สิ่งที่จะมีผลกระทบคือการตั้งกำแพงภาษีที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ วางไว้ที่ 25% สำหรับสินค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ และอาจทำให้คู่แข่งที่ไม่ได้ผลิตสินค้าในประเทศจีนมีโอกาสตีตื้นด้านราคามากขึ้น แต่สำหรับหัวเว่ยอาจมีความต้านทานในข้อนี้มาแล้ว เพราะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลอเมริกันได้มีการออกคำเตือนห้ามประชาชนซื้อผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย เนื่องจากเกรงว่าจะถูกใช้ในการลอบฟังความเคลื่อนไหวโดยรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ นั่นเอง
ส่วนความท้าทายอีกข้อ ก็อาจกล่าวได้ว่า หัวเว่ยมีภูมิต้านทานแล้วเช่นกัน กับการทำตลาดสมาร์ทโฟน Nova 3i ของหัวเว่ย ที่เกิดปรากฏการณ์ “โป๊ะแตก” เมื่อภาพเบื้องหลังการถ่ายทำที่ถูกโพสต์โดย Sarah Elshamy นางแบบสาวในภาพยนตร์โฆษณาที่แสดงให้เห็นว่า กล้องที่ทีมงานใช้จับภาพคือกล้อง DSLR ระดับมืออาชีพ ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของสมาร์ทโฟน Nova 3i ที่ควรจะได้ซีนกับการมีกล้องอัจฉริยะต้องเสียหายไปพอสมควร
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณา เมื่อทีมงานของนางแบบสาวมีการเก็บภาพเบื้องหลังการถ่ายทำเอาไว้ และภาพเบื้องหลังนั้นได้ถูกนำไปโพสต์บนอินสตาแกรมของเธอในเวลาต่อมา ทำให้ผู้คนเห็นว่า แท้จริงแล้ว ภาพสวยคมชัดที่ใช้ประกอบในการโฆษณานั้น ก็ถ่ายมาจากกล้อง DSLR จริง ๆ นั่นเอง
แต่ล่าสุด เธอได้ลบภาพนั้นออกจากอินสตาแกรมไปแล้วเรียบร้อย ส่วนทางบริษัทยังไม่มีการออกมาชี้แจงในเรื่องนี้แต่อย่างใด
โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2559 หัวเว่ยเคยมีกรณีโป๊ะแตกเช่นเดียวกันนี้มาแล้ว เมื่อเว็บไซต์ไอทีอย่าง Android Police จับได้ว่า หัวเว่ยใช้กล้องแคนนอน EOS 5D Mark III ในการถ่ายภาพ แล้วอ้างว่าเป็นภาพจากกล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปอย่าง P9 นั่นเอง
