นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ พิม-พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ ที่ล่าสุด (28 พ.ค.) จะมาเปิดเผยเส้นทางในวงการบันเทิงกว่า 18 ปี จากพนักงานธนาคารสู่นักแสดงมืออาชีพ และเปิดปมความรักสุดช้ำ เจอแฟนไฮโซนอกใจ ทำร้ายร่างกาย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร
เป็นไงบ้างโควิดช่วงนี้ ?
พิม : คือช่วงที่หยุดโควิดเนี่ย ก่อนหน้านี้ทุกอย่างก็คือพัก ไม่ว่าจะเป็นงานหรือสังสรรค์ทุกอย่างก็ต้องหยุดชั่วคราว แต่ว่ามันก็ทำให้เราได้พักกับตัวเอง อยากทำประโยชน์เพื่อสังคมก็ไปได้ โดยการป้องกันตัวเอง ก็ไปแจกข้าว ไปทำบุญ ไปอะไรด้วย มันเป็นช่วงที่กังวลเรื่องงานบ้าง แต่ก็เป็นช่วงที่แฮปปี้ ได้หยุดพักผ่อนเต็ม ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรเลย แต่จริง ๆ มีความสุขนะที่ได้ทำงาน เป็นคนติดงาน เรารู้สึกว่าเราเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง
แต่ความฝันจริง ๆ ไม่ได้อยากเป็นนักแสดง ?
พิม : ใช่ อยากเป็นนักร้อง
แต่ก่อนหน้านั้นเป็นสาวธนาคาร ?
พิม : จริง เมื่อก่อนทำอยู่ธนาคารออมสิน ก็คือจบการเงินมา พ่ออยากให้เรียนทางไฟแนนซ์ ก็เรียนตามที่พ่อแนะนำ ที่นี้จบมาอาชีพที่มันมั่นคงก็เป็นราชการ ทำงานธนาคาร เราก็ไปสอบติดธนาคารออมสิน แล้วก็ทำได้ 2 ปี ก็เข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่ออมสินมี หน้า ATM ก็จะเป็นรูปเราถือแบงก์ แต่ก็รู้สึกว่าการมาทำงานแบบนี้มันเหมือนเดิมในทุก ๆ วัน ซึ่งเราชอบอะไรที่มันหลากหลาย แล้วเป็นคนที่ชอบร้องเพลง ก็อยากจะส่งเดโม่เทป เดินขึ้นตึกไปแจกตามค่ายต่าง ๆ ซึ่งเราได้เข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด เพราะเราส่งไปเป็น 10 รอบเขาไม่เรียก ก็เลยไปยืนเฝ้าเขา เขาก็บอกฟังแล้ว เดี๋ยวพี่เอามาเซ็นสัญญาก่อนปีนึง เขาก็ส่งมาเรียนร้องเพลง เรียนอะไร
เขามาสายละคร สายภาพยนตร์เขาก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่เรื่องแรก แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมได้ไปเล่นภาพยนตร์ ?
พิม : พอได้เซ็นสัญญาเขาก็ส่งเราไปแคสต์ตามที่ต่าง ๆ แล้วได้เล่นเรื่องแรก คือภาพยนตร์ เรื่อง ขุนแผน แต่อันนี้ทางแกรมมี่ไม่ได้ส่ง เราไปเอง แต่ที่แกรมมี่ส่งไปคือ แม่เบี้ย แต่เรายังขี้อาย เพราะว่าแม่เบี้ยต้องเซ็กซี่พอสมควร แล้วแคสติ้งเขาจำได้ เขาเลยให้แคสต์ คืนบาปพรหมพิราม แล้วนั่นเป็นจุดเปลี่ยน
ซึ่งต้องบอกเลยว่าแจ้งเกิดพิมพ์พรรณเลย ?
พิม : ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์คนไม่รู้นะว่าเป็นพิมพ์พรรณ คิดว่าเป็นเบนซ์ ซึ่งในปีนั้นก็ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์
ตอนนี้โสดไหม ?
พิม : ตอนนี้ไม่โสดแล้วค่ะ
พิมจะต้องมีแต่ไฮโซมาจีบ ?
พิม : คือตอนที่พิมเข้าวงการแรก ๆ ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาเป็นคนมีฐานะ อยู่แวดวงไฮโซ ซึ่งเรายังเด็กก็ถือว่าโชคดีนะได้คนที่มีโปรไฟล์ดี แล้วเราก็ไม่ได้มีช้อยส์อื่นเลือก
รู้สึกยังไงที่ดารามีไฮโซมาจีบ แล้วนักข่าวก็มาเขียนดาราคู่กับไฮโซ เป็นของเล่นไฮโซ ?
พิม : พิมคิดว่าไฮโซทุกคนไม่ได้เหมือนกัน แต่ละคนมีลักษณะเฉพาะของเขา ซึ่งด้วยความที่เราดูข่าวผิวเผิน เขาเปลี่ยนแฟนดาราหลายคนแล้ว เหมือนดาราเป็นของเล่นของเขา แต่ลึก ๆ เราก็ไม่ทราบ แต่สำหรับพิม ประสบการณ์ที่ผ่านมามันเจอแต่ความรักที่เราไม่ได้มีโอกาสเลือกอะไรมาก แล้วเราก็ยังเด็ก เพราะฉะนั้นการตัดสินใจในตอนนั้นมันทำให้เกิดความผิดพลาด มันทำให้เราไม่มีความสุขกับสิ่งที่เราได้เจอ แต่โมเมนต์ที่ดีมันก็มีเยอะ บางอย่างที่เจ็บช้ำมันก็มี จนทำให้เรารู้สึกว่าเราอาจจะทำให้เราต้องโฟกัสในตัวตนที่เราต้องการจริง ๆ ความสุขมันอยู่ที่ไหน
เจอประสบการณ์คบซ้อนบ้างไหม ?
พิม : นี่ที่เลิกกันเพราะปัญหาของการนอกใจ หรือถ้าเรารับได้ในจุดนั้นมันก็อาจจะเติบโตอยู่ได้ ซึ่งพิมจะไม่โวยวายอะไร โอเค ถ้าคุณหมดรัก เราก็ยินดีที่จะไป เราคุยกันเองดีกว่า คุยกันง่าย ๆ
เห็นว่ามันมีเหตุการณ์ทำร้ายจิตใจเรารุนแรง ขนาดที่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายก็มี ?
พิม : มันก็เกิดขึ้นได้ในสมัยก่อน มันเกิดขึ้นกับบางคน มันเป็นเรื่องเก่าแล้ว พิมไม่อยากไปพูดถึงตรงนั้น เพราะว่าวันนี้ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป แล้วตอนนั้นมันก็เป็นการกระทบกระทั่งกันบ้างในความหึงหวง หรือในวัยที่เรายังอายุน้อย
ตอนที่พิมรู้สึกว่าความรักมันบั่นทอน ตอนนั้นมันแย่ขนาดไหน ?
พิม : ก็อยากฆ่าตัวตาย มันเฟลไปหมด มันทั้งอาย เพราะว่ามันออกสื่อบ้าง ในมุมของเรา เราจะถูกมองในแง่ลบ เหมือนแบบคบไฮโซหวังเงินหรือเปล่า แต่พอมันเฟล ทุกคนก็มีทั้งให้กำลังใจ แล้วก็มีในมุมที่สมน้ำหน้า
ที่ฆ่าตัวตายตอนนั้นลงมือหรือยัง ?
พิม : ยัง ๆ แค่คิด แล้วเหมือนกับเราเด็กก็อยากเรียกร้องความสนใจ แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ทำ เพราะว่าเราก็ไม่กล้า รักตัวเอง รักครอบครัว
หลังจากที่เราเจอกับตรงนั้นเราเข็ดกับความรักไหม ?
พิม : เข็ดเลย คือเหนื่อยกับการคบใครสักคน แล้วส่วนใหญ่คนที่เข้ามาก็เป็นคนมีตังค์ คือคนทั่วไปเขาไม่กล้า พิมหน้าดุด้วย แล้วพออยู่ตรงนี้คนธรรมดาเขาไม่ค่อยสนใจ แล้วก็ไม่เจอใคร ประมาณ 4-5 ปีที่โสด แล้วทำงาน 7 วัน แต่ว่าโชคดีที่มีเพื่อน มีน้องที่เขารักเรา แล้วก็ไม่เหงา แล้วก็อยู่ได้
ความรักครั้งล่าสุดคือคิดถึงเรื่องแต่งงานหรือยัง ?
พิม : คือเรา 2 คนอายุเยอะแล้ว พิมก็ 44 แล้วเราก็คุยกันในแบบผู้ใหญ่ คือถ้าจะคบกัน ถ้าคิดอนาคตร่วมกัน เราต้องคุยกันเรื่องนี้แล้ว แต่ประเด็นเรายังไม่เคยเจอกัน ก็รอให้เขามาที่เมืองไทย แล้วเรามาคุยกันว่าเราจะมีอนาคตร่วมกันยังไง ณ ตอนนี้เรามั่นใจในความรัก เราแฮปปี้ มีความสุข
ติดตามรับชมรายการ คุยแซ่บShow ย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama