ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (28 พ.ค.) ยังเกาะติดอยู่ในแดนบวก แรงหนุนจากขาขึ้นของหุ้นกลุ่มดูแลสุขภาพ และเทคโนโลยี ท่ามกลางความหวังของนักลงทุนถึงเรื่องที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมา หลังจากโดนผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 25,673.35 จุด ขยับขึ้น 125.08 จุด หรือ 0.49% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,053.41 จุด ปรับขึ้น 17.28 จุด หรือ 0.57% และดัชนีแนสแด็กที่ 9,465.32 จุด บวก 52.96 จุด หรือ 0.56%
ราคาหุ้นโบอิง ทะยานขึ้นมา 3.3% ปรับขึ้นสูงสุดในกลุ่มหุ้นบลูชิพของดาวโจนส์ หลังจากที่บริษัทออกมาระบุว่า ได้กลับมาเปิดสายการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์อีกครั้ง แม้จะเป็นการผลิตในระดับต่ำก็ตาม
ดัชนีย่อยกลุ่มดูแลสุขภาพ และเทคโนโลยี ปรับขึ้นมา 2% และ 1% ตามลำดับ และเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากสุดในดัชนีเอสแอนด์พี 500 โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้คนพากันมีความหวังเต็มเปี่ยมว่า เศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ตลาดยังเกาะติดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับสหรัฐ เกี่ยวกับเรื่องไวรัสโควิด-19 และการที่จีนนำเสนอร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้กับฮ่องกง ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า เรื่องนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้น
ในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.1 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.05 ล้านราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าว บ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้ชาวอเมริกันตกงานสูงถึง 40 ล้านรายนับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมเป็นต้นมา
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันนี้ถือว่าต่ำที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว และมีการชะลอตัวติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 นับตั้งแต่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มีนาคม
- โควิด-19 พ่นพิษ ‘คนว่างงาน’ สหรัฐ พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 25%
- ‘โควิด-19’ ทำ ‘คนว่างงาน’ ทะลุ 1 ล้าน รอเยียวยาอีกหลายแสนคน
- สหรัฐ ‘ว่างงาน’ ทะลุ 30 ล้านคน บริษัทยักษ์ใหญ่เริ่มไปไม่ไหว