เรโนลต์ ค่ายรถยนต์รายใหญ่จากฝรั่งเศส พร้อมด้วย 2 พันธมิตรสัญชาติญี่ปุ่น นิสสัน มอเตอร์ โค และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป เผยแผนกระชับความร่วมมือ ในการพัฒนา และผลิตรถยนต์ ท่ามกลางความพยายามที่จะรักษาการเป็นหุ้นส่วนกันเอาไว้ และรับมือกับความต้องการรถยนต์ที่ดิ่งลงอย่างหนัก
มาตรการต่างๆ ที่ออกมาจะช่วยให้ทั้ง 3 บริษัท สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้มากถึง 40% จากความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ โดย นิสสัน จะรับบทบาทเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เรโนลต์รับผิดชอบในเรื่องตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าบางส่วน ขณะที่มิตซูบิชิทำหน้าที่ในเรื่องรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ค่ายรถยนต์ทั้ง 3 รายนี้ ต้องการกันและกันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลก ทำให้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ต้องปิดโชว์รูม และโรงงาน
ทั้งสถานการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรม กับการเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ต้องการเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาล
“ความร่วมมือรูปแบบใหม่นี้ จะมุ่งเน้นในเรื่องการสร้างประสิทธิภาพ และความสามารถทางการแข่งขัน มากกว่าที่จะเน้นในเรื่องปริมาณ” ฌอง โดมินิค เซนาร์ด ประธานกรรมการบริหารบอร์ดพันธมิตร และเรโนลต์ กล่าว
เป้าหมายดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากนโยบายเดิมในสมัย คาร์ลอส โกสน์ ผู้สร้างกลุ่มพันธมิตรนี้ขึ้นมา และบริหารมานานเกือบ 20 ปี ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งโอซามุ มาซูโกะ ประธานกรรมการบริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์ส บอกว่า ในอดีตนั้น การเป็นพันธมิตรของทั้ง 3 บริษัท เน้นในเรื่องการขยายกิจการมากจนเกินไป
เซนาร์ด บอกด้วยว่า แผนการควบกิจการระหว่างเรโนลต์ กับนิสสัน ไม่ได้อยู่ในหัวข้อการพูดคุยอีกต่อไป
“เรากำลังมุ่งหน้าดำเนินกิจการ ภายในกรอบการทำงานปัจจุบัน”
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ชี้ว่า การตัดสินใจดังกล่าวของเรโนลต์ ช่วยทำให้เกิดความผ่อนคลายขึ้นมา และสร้างความมั่นใจว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกับนิสสัน และมิตซูบิชิ จะยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น โดยเฉพาะกับการรับมือความท้าทายต่างๆ ในระยะใกล้ ที่ความต้องการรถยนต์ในตลาดโลกซบเซาลง แต่ต้นทุนกลับสูงขึ้น เพราะการเปลี่ยนถ่ายสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า
มาตรการใหม่ของทั้ง 3 บริษัท ยังรวมถึง การกำหนดให้นิสสันรับบทบาทผู้นำในตลาดจีน อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ส่วนเรโนลต์ จะมุ่งเน้นในยุโรป รัสเซีย แอฟริกาใต้ และแอฟริกาเหนือ ขณะที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รับผิดชอบตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบริษัทมีฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว
- ‘นิสสัน’ จ่อปลดกว่า 20,000 คนทั่วโลก เซ่นพิษ ‘โควิด-19’
- ‘นิสสัน’ ลั่นพร้อมเปิดนวัตกรรม ‘อี-พาวเวอร์’ ในไทย หลังทุ่มผลิตหมื่นล้าน
- ‘นิสสัน-เรโนลต์-มิตซูบิชิ’ จ่อตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์
