World News

สหรัฐขู่ ‘คว่ำบาตร’ เจ้าหน้าที่-บริษัทจีน โยงกม.ความมั่นคงฮ่องกง

สหรัฐเล็งพิจารณามาตรการคว่ำบาตรจำนวนหนึ่ง เพื่อลงโทษจีน กรณีกวาดล้างการชุมนุมในฮ่องกง โดยที่รัฐบาลประธาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะประกาศว่า ดินแดนอดีตอาณานิคมแห่งนี้ สูญเสียการปกครองตนเองไปหรือไม่ 

hong 1

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาอยู่นั้น รวมถึง การที่กระทรวงการคลังจะเข้าควบคุมการทำธุรกรรม และอายัดทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ และบริษัทจีน หากรัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ต่อฮ่องกง ที่อาจทำให้สิทธิ และเสรีภาพของพลเมืองฮ่องกงลดน้อยลง

มาตรการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึง การจำกัดการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่า ในขณะนี้ หน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐ กำลังหารือกันเป็นการภายใน และยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ออกมาว่า จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรอย่างไร หรือจะดำเนินการหรือไม่

การเปิดเผยข้างต้นมีขึ้น หลังเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้ตอบคำุถามถึงความเป็นไปได้ที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อจีนว่า รัฐบาลของเขากำลังดำเนินการบางอย่างอยู่ในขณะนี้ และเขาจะเปิดเผยในช่วงปลายสัปดาห์

“เป็นเรื่องที่พวกคุณกำลังจะได้ฟัง ก่อนจะสิ้นสุดสัปดาห์นี้ ผมว่า เป็นเรื่องที่ทรงพลังอย่างมาก” ทรัมป์ ระบุ

ขณะที่โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

ทางด้านจีนออกมาเตือนว่า จะตอบโต้ หากสหรัฐดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อจีน หรือเข้าแทรกแซงกิจการภายในประเทศ

“ถ้าหากมีใครยืนกรานที่จะทำลายผลประโยชน์ของจีน จีนก็ตัดสินใจที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่จำเป็นทั้งหมด กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ สำหรับฮ่องกง เป็นเรื่องของกิจการภายในจีนล้วนๆ ไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง” นายจ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุ

รายงานข่าวระบุว่า จีนมักขู่ที่จะตอบโต้สหรัฐทุกครั้ง ที่อีกฝ่ายดำเนินมาตรการควบคุมบริษัท หรือองค์กรสัญชาติจีน แต่ในเรื่องของฮ่องกงนี้ จีนยังไม่เคยออกมาระบุอย่างเจาะจงว่า ตั้งเป้าที่จะตอบโต้สหรัฐในด้านใด

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ส่งสัญญาณว่า จีนอาจจัดบริษัทสหรัฐเข้าไว้ในกลุ่มที่เรียกว่า “รายชื่อสินทรัพย์ที่เชื่อถือไม่ได้” เพื่อตอบโต้กรณีที่สหรัฐ ประกาศในเดือนนี้ ควบคุมการทำธุรกิจของบริษัทแดนมังกรจำนวนหนึ่ง รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โค ซึ่งรัฐบาลจีนเองก็เคยประกาศเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศ อยู่ในภาวะตึงเครียดที่สุดว่า จะขึ้นบัญชีดำบริษัทอเมริกันจำนวนหนึ่ง แต่ไม่เคยให้รายละเอียดว่า มีบริษัทอะไรบ้างที่ตกเป็นเป้าหมาย

Avatar photo