เปิดคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ “การบินไทย” ล่าสุดหนี้ท่วม 3.5 แสนล้าน ไม่มีเงินจ่ายคืน
วันนี้ (27 พ.ค.) วันนี้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยให้นัดไต่สวนวันที่ 17 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. ซึ่งคำสั่งดังกล่าวส่งผลให้การบินไทยเข้าสู่สภาวะการพักชำระหนี้ (Automatic Standstill) กับเจ้าหนี้ทุกรายตามกฎหมาย
สำหรับรายละเอียดที่การบินไทยใช้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายมีดังนี้ บริษัทการบินไทยมีทุนจดทะเบียน 26,989 ล้านบาท หนี้สินรวม 354,494 ล้าน สินทรัพย์รวม 349,636 ล้าน มีหนี้ถึงกำหนดชำระ ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 รวม 10,200 ล้าน ซึ่งการบินไทยอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้
โดยเหตุผลที่ศาลฯ ควรพิจารณาให้ฟื้นฟูกิจการ คือ ธุรกิจการบินไทยมีพื้นฐานดี มีการประกอบธุรกิจมานาน เเละยังได้รับรางวัลต่อเนื่อง รวมทั้งมีธุรกิจอื่นช่วยสร้างรายได้ ทั้งการขนส่งสินค้า บริการภาคพื้น และครัวการบิน ซึ่งปัญหาหนี้สินเกิดจากภาพรวมอุตสาหกรรมในและต่างประเทศมีการแข่งขันสูง รวมถึงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่กระทบธุรกิจการบิน การบินไทยปรับตัวไม่ทันกับสถานการณ์เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ หากไม่ได้รับการฟื้นฟูจะเสียหายต่อเจ้าหนี้ ลูกหนี้ พนักงาน เเละเศรษฐกิจของประเทศชาติ
ทั้งนี้ การบินไทยยังสามารถมีช่องทางการฟื้นฟู ดังนี้ 1. ต้องปรับโครงสร้างหนี้, 2. ต้องเปลี่ยนการบริหารจัดการองค์กร ลดต้นทุน, 3. ปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบิน, 4. ปรับปรุงหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และ 5. ปรับปรุงการหารายได้
สำหรับรายชื่อผู้ทำแผนฟื้นฟู มีการเสนอ บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด หรือ EY ซึ่งเป็นบริษัทสอบบัญชี บริการที่ปรึกษาบัญชี และบริการบริหารความเสี่ยงระดับโลก พร้อมทั้งกรรมการลูกหนี้ 6 คน ประกอบด้วย 1.พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย, 2. นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการการบินไทย และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) การบินไทย, 3. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, 4. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, 5. นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และ 6. นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ โดยรายชื่อผู้ทำแผนในลำดับที่ 3–6 ได้รับการแต่งตั้งเป็นบอร์ดการบินไทย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทในวันนี้ (27 พ.ค.) ส่งผลให้การบินไทยเข้าสู่สภาวะการพักชำระหนี้ (Automatic Standstill) กับเจ้าหนี้ทุกรายตามกฎหมาย และทริสเรทติ้ง ได้ปรับลดเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI สู่ระดับ “D” หรือ “Default” ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด คืออยู่ในสภาวะผิดนัดชำระหนี้ ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยและคืนเงินต้นได้ตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นายไพรินทร์ ได้ขอลาออกจากการเป็นบอร์ดการบินไทยว่า เป็นเพราะขัดกับเนื่องจากขัดกับกฎข้อบังคับของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กำหนดไว้ว่า ห้ามดำรงตำแหน่งใดๆ 2 ปี หลังจากพ้นจากรัฐมนตรี
- ด่วน! ไพรินทร์ ถอนตัวบอร์ด ‘การบินไทย’
- ‘ทริส’ หั่นเครดิต ‘การบินไทย’ สู่ระดับ D หลังศาลรับฟื้นฟูกิจการ
