ชัดเจน!! ผลตรวจดีเอ็นเอ “น้องอิ่มบุญ” สายเลือด “แม่ปุ๊ก” ผู้ต้องหาวางยา “น้องอมยิ้ม” จิตแพทย์แนะเร่่งเยียวยาจิตใจ “น้องอิ่มบุญ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ ของนางสาวนิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก ผู้ต้องหาวางยา “น้องอมยิ้ม” กับดีเอ็นเอของ “น้องอิ่มบุญ” วัย 2 ขวบ ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ส่งตัวอย่างดีเอ็นเอของทั้งสองคนมาตรวจพิสูจน์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของนางสาวนิษฐากับ “น้องอิ่มบุญ” ตรงกัน แสดงว่าทั้งสองเป็นแม่ลูกกันจริง ซึ่งผลพิสูจน์อย่างเป็นทางการ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง จะส่งให้พนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม การตรวจดีเอ็นเอนางสาวนิษฐากับ “น้องอิ่มบุญ” เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าอาจไม่ใช่แม่ลูกกันจริงเหมือนกับกรณีของเด็กหญิงอมยิ้ม วัย 4 ขวบที่นางสาวนิษฐา รับมาดูแล ก่อนถูกวางยา สร้างเรื่องราวน่าสงสารขอความเห็นใจจากสังคม เพื่อหวังเงินบริจาค
ด้านนพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีคดี “น้องอิ่มบุญ” ว่า เรื่องนี้หากดูจะเข้าข่าย family violence ความรุนแรงในครอบครัว เหมือนกับการทำร้ายร่างกาย ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวเหล่านี้ หัวใจสำคัญที่สุด คือการช่วยเหลือเด็กให้พ้นความรุนแรง ทำอย่างไรก็ช่วยฟื้นฟูเยียวยาจิตใจเด็กให้เร็วที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น อนาคตของเด็กเหล่านี้ จะซึมซับความรุนแรง ต่อต้านสังคมหรืออันธพาล วัย 2-3 ขวบเป็นวัยของการจดจำ การดูแลของสหวิชาชีพที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปดูแล จะมีการเยียวยา และประเมินผลจากการเล่นและคนรอบข้าง สิ่งแวดล้อม ดูว่าเด็กได้รับการเยียวยาและสภาพจิตใจเป็นอย่างไร
นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า สัญญาณของความรุนแรง สามารถปรากฎชัดและสังเกตให้เห็นได้ จากบาดแผลตามร่างกาย หรือข้อมูลจากคนรอบข้าง ซึ่งเมื่อพบเห็นไม่ควรละเลย ต้องให้ความช่วยเหลือ เหมือนเช่นเรื่องนี้ที่แพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติสังเกตเห็นความผิดปกติ ก็ให้การช่วยเหลือ แยกแม่และเด็ก
