ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมน้ำอัดลมสหรัฐ “เป๊ปซี่โค” เตรียมทุ่มเงิน 3,200 ล้านดอลลาร์ เข้าซื้อกิจการ “โซดาสตรีม” ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำดื่มอัดลมในครัวเรือน ในความพยายามที่จะสู้กับคู่แข่งอย่าง “โคคา โคลา” ในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
โซดาสตรีม ก่อตั้งขึ้นที่สหราชอาณาจักรในปี 2446 เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ที่เกือบทุกบ้านในอังกฤษจะต้องมีติดเอาไว้ในครัวช่วงทศวรรษ 70 และ 80 เป็นอุปกรณ์สำหรับการผลิตเครื่องดื่มอัดลม ด้วยการใส่น้ำเชื่อมเข้าไปในน้ำเปล่าอัดลม แต่เมื่อราคาน้ำอัดลมถูกลงมาเรื่อยๆ ก็ทำให้ความนิยมในเครื่องนี้ลดลงตามไปด้วย
บริษัทที่ปัจจุบันมีฐานการดำเนินงานอยู่ในอิสราเอลแห่งนี้ ได้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นผู้ผลิตเครื่องทำน้ำดื่มธรรมดา ให้กลายเป็นน้ำโซดา ประเภทสปาร์คลิง วอเทอร์ (sparkling water) เพื่อเจาะเข้าไปยังเทรนด์ของผู้บริโภคอายุน้อย และกลุ่มลูกค้าที่เน้นด้านสุขภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อม
ในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว เป๊ปซี่โคจะใช้เงินสดที่มีอยู่ในมือ เข้าซื้อหุ้นโซดาสตรีมในราคาหุ้นละ 144 ดอลลาร์ หรือสูงกว่าราคาหุ้นโซดาสตรีม ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐ ช่วงปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ส.ค.) ถึง 10.9% และสูงกว่าราคาหุ้นโดยเฉลี่ย 30 วันของบริษัทถึง 32%
เป๊ปซี่บอกด้วยว่า การทำข้อตกลงเข้าซื้อกิจการข้างต้น ที่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการบริหารของทั้ง 2 บริษัท และคาดว่าจะปิดข้อตกลงได้ในเดือนมกราคม 2562 นั้น ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในความพยายามของบริษัท ที่จะส่งเสริมเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ผ่านวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดเงิน และให้ความสนุกสนานในการใช้งาน
ทั้งนี้ มีกระแสคาดการณ์เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ถึงความเป็นไปได้ที่ เป๊ปซี่โค หรือโคคา โคลา อาจจะเข้าซื้อกิจการโซดาสตรีม ที่วางสถานะตัวเองเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มากกว่าเครื่องดื่มบรรจุขวดกระแสหลักทั้งหลาย และถือเป็นธุรกิจที่เป็นภัยคุกคามต่อบริษัทรายใหญ่ๆ
อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา การผลิตน้ำอัดลมเองที่บ้านประสบความสำเร็จอย่างจำกัด เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่มักใช้ผลิตภัณฑ์ของโซดาสตรีม เพื่อการทำน้ำปล่าวอัดลม โดยไม่ได้มีการซื้อใส่น้ำเชื่อมที่บริษัทวางจำหน่ายไปด้วยแต่อย่างใด
ทางด้านนายแมทธิว แบร์รี นักวิเคราะห์จากยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า การที่ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม และน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในระยะอันใกล้นี้ การจำกัดภาวะขาดทุน ผ่านทางผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเป๊ปซี่โค
ข้อมูลของยูโรมอนิเตอร์ ระบุด้วยว่า น้ำดื่มบรรจุขวดมียอดขายเพิ่มขึ้นราว 6.2% ต่อปีในช่วง 5 ปี นับถึงปี 2560 ขณะที่ยอดขายน้ำอัดลมแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
ข่าวการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ทำให้ราคาหุ้นของโซดาสตรีม ในตลาดนิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) ทะยานขึ้นเกือบ 10% ขณะที่ราคาหุ้นเป๊ปซี่ ขยับขึ้นมาเพียง 0.3% เท่านั้น เพราะนักวิเคราะห์ยังมีข้อกังขาว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยหนุนธุรกิจเครื่องดื่มของเป๊ปซี่ได้มากน้อยเพียงใด
