Politics

อึ้ง !! ล้มประมูลพาสปอร์ต15 ล้านเล่ม อ้างผ่านแค่รายเดียว

guide Passport

เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2561 กระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศ จ้างเอกชนผลิต และให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 จำนวน 15 ล้านเล่ม หรือภายในเวลา 7 ปี  แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน โดยราคากลางอยู่ที่ 12,438,750,000 บาท หรือเล่มละ 829.25 บาท

โดยใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) กำหนดให้เอกชนยื่นเสนอราคาในวันที่ 23 กรกฎาคม 2561  เปิดให้ยื่นเอกสารข้อเสนอทางด้านเทคนิควันที่ 24 กรกฎาคม 2561 พร้อมให้เอกชนเข้าสาธิตในพื้นที่จำลองที่อาคารอิมแพคเมืองทองธานี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561

หลังจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศเรียกทุกบริษัทเข้าชี้แจงเพิ่มเติมวันที่ 3 สิงหาคม 2561 โดยกำหนดประกาศผลในวันที่ 17 สิงหาคม 2561

การประมูลครั้งนี้ มีเอกชนที่สนใจเข้ายื่นซองราคาประมูล 4 ราย ประกอบด้วย

  1. กิจการร่วมค้า จันวาณิชย์ (บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด และบริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นท์ติ้ง จำกัด) ซึ่งเป็นคู่สัญญา ปัจจุบัน
  2. กิจการร่วมค้า TIM (บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด, IDEMIA (ฝรั่งเศส) MSC และ CP)
  3. กิจการร่วมค้า ดาต้าโปรดักส์ ทอปปัง (บริษัท ดาต้าโปรดักส์ ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด และ Gemalto)
  4. กิจการร่วมค้า WIN (สามารถ, ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์, MSCS และ Dermalug (เยอรมัน)

จากผู้ขอรับเอกสารทั้งหมด 16 ราย (ข้อมูลสำนักข่าวอิศรา)

ทันทีที่มีรายชื่อผู้ยื่นราคาประมูลไป ไม่ได้หมายความเรื่องนี้จะจบสิ้นจนได้รับผู้ชนะการประมูลอย่างที่กระทรวงการต่างประเทศต้องการ

picture 3 31408

 สั่งยกเลิกประมูลอ้างตรงสเปครายเดียว

ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 นางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามประกาศกระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง ยกเลิกประกาศประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 ด้วยวิธีประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

โดยระบุว่าตามประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ เรื่องประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3  ด้วยวิธีประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ลงวันที่ 11 เมษายน 2561

เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 ได้พิจารณาแล้วมีผู้ยื่นข้อเสนอถูกต้อง ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว จึงเห็นควรยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ

กระทรวงการต่างประเทศจึงขอยกเลิกประกาศประกวดราคาดังกล่าว ตามนัยข้อ 56 ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

แจงละเอียดยิบเงื่อนไขที่ต้องปฎิบัติ

ประเด็นสำคัญของ โครงการ e-Passport ได้แก่  บริษัทที่จะเข้าประกวดราคา เปิดกว้างทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศเพียงต้องมีประสบการณ์ที่น่าเชื่อถือ  ข้อกำหนดทางด้านเทคนิคมีการกำหนดเงื่อนไขทางเทคนิคแบบเปิดกว้าง และไม่กำหนดยี่ห้อ ไม่ปรากฎว่าเอื้อรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ

ในการแข่งขันการประกวดราคา โครงการนี้มีการกำหนดทำ Demonstration and Benchmark Test เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า จะสามารถดำเนินการได้ตามความมั่นใจของกระทรวง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มงานหลักๆ คือ

Passport Booklet แต่ละบริษัทที่นำเสนอจะแข่งขันความสามารถในการทำตัวเล่ม Passport มาเสนอในโครงการว่ามี Security Features ดีและประสิทธิภาพอย่างไร ซึ่งจะเป็นความลับในการแข่งขันของแต่ละบริษัท อาจมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป โดยแต่ละบริษัทต้องจัดทำเล่มตัวอย่างดังกล่าวให้ตรงตามที่นำเสนอจำนวน 50 เล่ม

การทำสาธิตระบบ รวมถึงการพิมพ์ Passport ในส่วนนี้บริษัทจะต้องลงทุน Hard Ware และ Soft Ware รวมทั้งการออกแบบฐานข้อมูล การนำเครื่องพิมพ์ Passport มาสาธิต

การติดตั้ง และทดสอบระบบ และการผลิตหนังสือทางอิเล็กทรอนิกส์ (Benchmark Test) มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไปแล้วรายละไม่น้อยกว่า 30ล้านบาท ในการดำเนินการดังกล่าว ก็ได้มีการเปิดเผยข้อมูลการแข่งขันที่เป็นความลับเกี่ยวกับการทำ Security Feature แล้ว

guide Passport

มึนคำสั่งยกเลิกอ้างมีผู้ชนะรายเดียว

สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศมาออกคำสั่งยกเลิกการประกวดราคา ทำให้ผู้เข้าร่วมประมูลเกิดข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับการประมูลครั้งนี้  ผู้ที่ผ่านมาเข้ารอบก็ไม่แจ้งให้ทราบว่าเป็นใคร และการที่กระทรวงต่างประเทศได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 เรื่องยกเลิกการประกวดราคาการจัดทำ e-passport ระยะที่ 3 โดยอ้างว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอถูกต้องตามเงื่อนไขเพียงรายเดียว จึงเห็นควรให้ยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเมื่อก่อนระยะที่ 1 และ2 มีผู้ชนะเพียงรายเดียวก็ได้

4 ประเด็นข้องใจยกเลิก

แหล่งข่าวจากผู้เข้าร่วมประมูลรายหนึ่ง ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงคำสั่งยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่า

1.การประกาศยกเลิกการประกวดราคา ไม่ระบุว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายใดเป็นผู้ที่ยื่นข้อเสนอถูกต้องตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด (ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่า ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารการพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 42 ประกอบข้อ 59) 

2.การประกาศยกเลิกการประกวดราคา ไม่ระบุเหตุผลที่ต้องยกเลิกการประกวดราคา (ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 67 วรรคสาม

3.การประกาศยกเลิกการประกวดราคาที่ไม่ได้ระบุเหตุผล ที่ประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจในการออกคำสั่ง ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่สามารถแสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้ดุลพินิจโดยชอบ   หรือมีมาตรฐานในการปฏิบัติราชการทางต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 (ไม่เป็นไปตาม พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 37  และไม่เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องคำสั่งทางปกครองที่ต้องระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งหรือในเอกสารแนบท้ายคำสั่ง ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2543

นอกจากนี้ยังมีแนวคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่พิพากษาเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.156/2553) 

4.การยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ถือเป็นการใช้อำนาจการปกครอง ในการออกคำสั่งทางปกครอง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายและเข้าข่ายเป็นการกระทำละเมิดต่อเอกชนผู้ยื่นข้องเสนอในการจัดซื้อจัดจ้าง พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 67 วรรคสอง

เผยมาตรฐานที่ต่างกัน

จากข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา ระบุว่า หากย้อนกลับไปดูการจัดซื้อจัดจ้างระยะที่ 2 จำนวน 7 ล้านเล่ม เมื่อปี 2555 วงเงิน 5,804,750,000 บาท ใช้ประมูลแบบอีอ็อกชั่น เอกชน 4 ราย เข้าร่วมประมูลและสาธิตระบบ ปรากฏว่าบริษัทจันวาณิชย์ ผ่านเพียงรายเดียว

ในครั้งนั้นไม่ได้ยกเลิกและจัดประมูลใหม่ แต่กระทรวงทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัทจันวาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม  2555 สิ้นสุดสัญญา 10 ตุลาคม 2562 (สัญญาเลขที่ 176/2556 )

เกาะติดทิศทางต่อไปบัวแก้ว

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตในหมู่ผู้เข้าร่วมการประมูล ว่าการที่ยกเลิกการประมูลแบบนี้  และไม่ระบุผู้ที่ผ่านมาเข้ารอบแม้จะเป็นรายเดียว ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

“การยกเลิกประมูลรอบนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยหลายอย่าง หากยังหาผู้ชนะการประมูลไม่ได้อย่างนี้กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไร ว่าจ้างรายเดิมต่อหรือไม่ หรือจะเร่งการประมูลใหม่ ตรงนี้ยังไม่แน่ชัด”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight