นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2561 ว่า ตลอด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 2,646 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 90 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เป็นผลจากรายได้ ในส่วนธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 1,221 ล้านบาท ตลอดจนการปรับแผนโครงสร้างรายได้ในช่วง 2-3 ปี ด้วยการเพิ่มการลงทุนในธุรกิจให้เช่าและบริการ เริ่มทยอยรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้สูงถึง 119 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% และมีกำไรสุทธิของทุกกลุ่มบริษัทกว่า 170 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 237% นับเป็นบทสะท้อนความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี และมีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
โดยผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี 2561 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 1,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 656 ล้านบาท หรือคิดเป็น 97% จากรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อย ประกอบด้วย ธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบ 673 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 33% จากภาพรวมของตลาดอสังหาฯที่มีแนวโน้มดีขึ้น
รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งมีความโดดเด่นด้านทำเลที่มีศักยภาพ การพัฒนาการออกแบบบ้านและโครงการ ทั้งรูปแบบ การเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แต่ยังคงรักษาระดับราคาให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของผู้บริโภค
ในส่วนของรายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการของบริษัทในไตรมาส 2 มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ มาจากการให้เช่าและบริการพื้นที่คลังสินค้าและโรงงาน ในโครงการบางกอกฟรีเทดโซน ของบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ โดยมีการพัฒนาพื้นที่ให้เช่าเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันมีการพัฒนาพื้นที่ปล่อยเช่ารวม 1.15 แสนตารางเมตร และอยู่ในระหว่างดำเนินการพัฒนาอีกกว่า 3.9 หมื่นตารางเมตรในปีนี้ นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าและบริการ ในโครงการพาร์ค คอร์ท อพาร์ทเมนต์และคอนโดใจกลางสุขุมวิท ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการ (Recurring Income)เพิ่มขึ้น
สำหรับธุรกิจบริการสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ที่ได้ปรับโฉมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้การตอบรับเป็นอย่างดีส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ 26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 18 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% รวมถึงธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ในเครือ ที่สามารถสร้างรายได้รวม 7 ล้านบาทในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งเพื่อขาย เพื่อเช่า และเพื่อการบริการ โดยล่าสุดบริษัทมีแผนเปิดโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพอีก 1 โครงการ ได้แก่ โครงการชวนชื่น ทาวน์ ราชพฤกษ์-345 พรีเมียม ทาวน์โฮม ใหม่ล่าสุดที่จะเปิดพรีเซลในวันที่ 25 – 26 สิงหาคมนี้ ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
