ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่หลายธุรกิจต้องประสบกับความซบเซาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “SOdA PrintinG” ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่แพ้กัน ทว่าสองซีอีโอพี่น้อง ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ และ ธวัชชัย สหัสสพาศน์ กลับมีวิธีคิดในการปรับตัวที่น่าสนใจ ประคับประคองธุรกิจต่อไปได้ ทั้งยังช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพนักงานที่มีและอีกหลายครอบครัวใน จ.เพชรบุรี
หลายปีที่ผ่านมา SOdA PrintinG ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการเปลี่ยนมุมมองต่อธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่ ด้วยจุดขายใหม่ นั่นคือการลงเล่นในตลาดของขวัญ ด้วยจุดขาย “ของขวัญแบบนี้มีชิ้นเดียวในโลก” เน้นกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ด้วยการพิมพ์ภาพที่ต้องการลงบนผ้าใบแคนวาส เพื่อมอบเป็นของขวัญ ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่น
แต่เมื่อสัญญาณวิกฤตโควิด-19 เริ่มต้นขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีอยู่ ไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ
ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ กล่าวว่า นอกเหนือจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ของขวัญ SOdA PrintinG ยังมีธุรกิจร้านอาหารใน จ.เพชรบุรี ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นทัวร์จีน และด้วยระบบเดลิเวอรี่ในจังหวัดยังไม่ค่อยแพร่หลาย ทำให้ร้านต้องปิดตัวลง ลูกจ้างที่มีอยู่ในทั้งสองธุรกิจ ราว 120 คน ต้องหยุดงาน เราจึงต้องหาทางปรับธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ ถ้าธุรกิจยังไปต่อได้ พนักงานและลูกจ้างก็จะยังมีงานทำ มีรายได้ในการดำรงชีวิต
แม้ความคิดที่จะพาธุรกิจให้รอดโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การจะเป็นไปได้จริงนั้นไม่ง่าย ด้วยสถานการณ์ที่ไม่น่าจะมีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะมอบขวัญให้กันได้
การปรับโมเดลธุรกิจของ SOdA PrintinG คือ กลับมาดูทรัพยากรที่มีอยู่ นั่นก็คือ “เครื่องพิมพ์“ที่สามารถผลิตงานพิมพ์ผ้าได้อย่างมีคุณภาพ และมีแรงงานที่พร้อมทำงานจากที่บ้าน ประกอบกับจุดแข็งของธุรกิจเดิม ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ที่เรามีความเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ รวมทั้งสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เกิด New Normal จนกลายใช้หน้ากากกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ในชีวิตประจำวัน
“เราพบว่าการใส่แมสก์ของกลุ่มวัยรุ่นมีความละเอียดอ่อนกว่าที่ใครๆ คิด Pain Point ที่สำคัญเป็นเรื่องของความอึดอัดในการสวมใส่ ใส่แล้วทำให้เครื่องสำอางเลอะเทอะ หายใจแล้วมีไอน้ำเกาะแว่น ที่สำคัญคือ ใส่แล้วทำให้รูปหน้าดูไม่สวย เราจึงปรับมาทำสินค้าที่ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านี้”
SOdA PrintinG จึงเริ่มต้นพัฒนาหน้ากากผ้า และปรับเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง จนได้แมสก์ผ้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้งานของบรรดาวัยรุ่นได้อย่างแท้จริง วัสดุมีคุณภาพ น้ำหนักเบา สวมใส่แล้วไม่อึดอัด หายใจสะดวกกว่าแมสก์ผ้าทั่วไป โดยไม่ทำให้มีไอน้ำเกาะแว่นตา รวมทั้งมีความสวยงาม รูปทรงที่เข้ากับใบหน้า และลวดลายที่พิมพ์ลงบนผ้า
หลังจากเริ่มวางสินค้าลงสู่ตลาด จนได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นจากการทำการตลาดออนไลน์ ส่งผลให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง
ธวัชชัย สหัสสพาศน์ เล่าว่า ความสำเร็จที่สำคัญกว่ายอดขายคือ การสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวเพชรบุรี โดยหลังจากที่วัสดุในการผลิตถูกพิมพ์ออกจากโรงงานแล้ว จะถูกรับไปตัดเย็บและส่งกลับมาเพื่อทำความสะอาดและตรวจสอบคุณภาพก่อนการจัดจำหน่าย
ปัจจุบันเรามีเครือข่ายของพนักงานและลูกจ้างเดิม รวมทั้งผู้ต้องการมีรายได้ในช่วงโควิด-19 ที่รับงานไปตัดเย็บอยู่ราว 400 คน แต่ละคนสามารถตัดเย็บแมสก์ผ้าได้ประมาณ 50-100 ชิ้นต่อวันขึ้นอยู่กับความชำนาญ ทำให้พวกเขามีรายได้หลักพันต่อวัน สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำกว่าเท่าตัว ทั้งยังสามารถทำงานจากที่บ้านได้ด้วย
จากช่วงแรกผลิตได้สัปดาห์ละ 2,000 ชิ้น ทุกวันนี้ SOdA PrintinG สามารถขยายกำลังผลิตในการเย็บได้สัปดาห์ละ 30,000 ชิ้น แม้จะสามารถพิมพ์ได้ถึง 15,000 ชิ้นต่อวัน ด้วยข้อจำกัดที่ต้องอาศัยฝีมือแรงงานในการตัดเย็บ
SOdA PrintinG นับเป็นอีกธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้อยู่รอดได้อย่างน่าสนใจ โดยไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับแรงงานและชุมชนที่จะต้องรอดไปด้วยกัน เป็นธุรกิจที่น่าให้การสนับสนุน เพราะทุก0ๆ ยอดการซื้อ คือรายได้ที่จะไปสู่ชาวเมืองเพชรบุรีได้อีกหลายครัวเรือน
- ผลวิจัยยืนยันชัด ‘หน้ากากอนามัย’ ลดการติดไวรัสโควิดได้จริง
- คนไทย ร้อยละ 92.6 พร้อมปรับเข้าสู่ ‘ชีวิตวิถีใหม่’ วอนช่วยคนตกงาน
- ‘ออมสิน’เปิดโพย 3 กลุ่มธุรกิจฟื้น ‘เร็ว-กลาง-ช้า’ แนะยุทธวิธีรับ ‘New Normal’