‘แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์’ ซึ้งน้ำใจ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ พาพบแพทย์ หลังจากโรงพยาบาลขอให้ช่วยประสานนำอดีตนักร้องดังมาเข้ารับการรักษาอาการเลนส์ตาหลุด
หลังจาก ท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ สองพี่น้องฝาแฝด ได้ลงพื้นที่แจกเงินให้กับชาวบ้านตามชุมชน ต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และได้พบกับอดีตนักร้องชื่อดัง แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ทันทีที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เห็นก็จำได้ และเข้าไปทักทายพร้อมกับร่วมร้องเพลงอย่างคึกครื้น พร้อมกับมอบเงินจำนวน 10,000 บาท ให้ไปเพื่อใช้ดำรงชีวิต ทำเอานักร้องดัง แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ น้ำตาคลอเบ้า
ล่าสุด บิณฑ์ ได้พา แสงสุรีย์ มาพบทีมแพทย์ ที่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ หลังจากที่ทางโรงพยาบาลขอให้ช่วยประสานอดีตนักร้องดังมาเข้ารับการรักษาอาการเลนส์ตาขวาหลุด
บิณฑ์ : วันนี้ได้พาพี่แสงสุรีย์มาพบคุณหมอ ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยครับ ผมคิดว่าจะไปวัดไร่ขิง เพราะที่บ้านคุณแม่ก็เคยไปรักษาเรื่องสายตาอยู่ที่นั่นแล้วโอเค แต่โรงพยาบาลพริ้นซ์มีวัตถุประสงค์คืออยากจะช่วยเหลือพี่แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ อยากจะรักษาให้ฟรี บอกว่าคุณบิณฑ์พามาเลยนะครับ ไม่ต้องอะไรเลย ผมจัดการให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง ค่ารักษาจะเท่าไหร่ก็แล้วแต่ โรงพยาบาลจัดการให้หมด”
“ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก ให้ลูกน้องโทร.ไปบอกพี่แสงสุรีย์ว่าเตรียมตัวเลย เพราะทางโรงพยาบาลเขาจะรักษาให้ฟรี เขาดีใจเลยนัดมาวันนี้ครับ แล้วก็คิดว่าอีกไม่เกิน 2-3 อาทิตย์ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย แล้วก็จะกลับไปเป็นนักร้องที่โด่งดังเหมือนเดิม แต่งเพลงไปแล้ว 1 เพลง ทั้งนี้ก็อยู่ที่พี่เขาด้วย เพราะห้องพี่เขามีพระเต็มเลย เขาเป็นคนธรรมะธรรมโมเหมือนกัน”
แสงสุรีย์ : “ไม่รู้ครับคือผมมัวแต่ไปอยู่บ้านนอกแล้วผมมาพอดี ไม่รู้เป็นดวงหรือว่าวาสนา ผมมารู้ตอนที่เขาไปแจกผู้ตกทุกข์ได้ยากในซอยผมก็เลยโผล่ออกมาที่หน้าบ้านครับไปยืนรอที่เขาจะผ่านไปเขาเห็นผมแต่เขาก็ยังไม่รู้จักผม
ผมก็เลยถามว่าจำผมได้ไหม ผมก็สวัสดีครับเจ้านาย เขาก็เหมือนจำไม่ได้ เพราะเราปิดหน้า แล้วเราก็เอาหน้ากากออก แล้วก็ร้องเพลงให้เขาฟัง เขาก็เลยรู้ ร้องกันใหญ่เลยทีนี้ ก็สนุกกัน ร้องเพลงรักสาวเสื้อลาย (ร้องเพลง) แต่เขาร้องดีกว่าผมอีก”
บิณฑ์ : “เป็นเพลงที่เมื่อก่อนผมไปโชว์ตัวที่ไหนก็แล้วแต่ เพลงรักสาวเสื้อลายผมจะร้องประจำ เอาเสียงเพลงเสียงร้องของพี่แสงสุรีย์ไปใช้มาตลอดหลาย 10 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอพี่เขาผมต้องตอบแทนบุญคุณ วันนั้นผมได้เจอแล้วก็คิดในใจว่าผมจะต้องดูแลพี่เขาต้องช่วยเหลือเขา
จนกระทั่งวันนี้พามารักษาดวงตา ส่วนเรื่องความเป็นอยู่นั้น เดี๋ยวอนาคตข้างหน้าผมจะดูว่าต้องยังไงบ้าง เพราะบ้านเขาเห็นบอกว่าเจ้าของบ้านยกให้แล้ว เราจะเข้าไปปรับปรุง เราจะเข้าไปทำให้ดีขึ้น เอาให้สมกับว่านี่คือนักร้อง เคยได้เสียงทองคำไหม”
แสงสุรีย์ : “เคยได้รับโล่ทองคำจากองค์สมเด็จพระเทพฯ ที่ท่านเสด็จไปชมด้วยตัวเอง ในลูกทุ่งกึ่งศตวรรษ เป็นศิลปินลูกทุ่งยอดนิยม”
บิณฑ์ : “เพราะฉะนั้นเราต้องเอาความเป็นอยู่ของเขาให้ดี ทั้งเรื่องห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก เดี๋ยวไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราจะเข้าไปดู แล้วอีก 2-3 เดือนข้างหน้ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง”
แสงสุรีย์ : “ตอนแรกก็ไปร้องเพลงอยู่ดีๆที่พะเยา ปลายเดือนกุมภาพันธ์โรคโควิด-19 กำลังมาเราก็ว่าทำไมตาเป็นอย่างนี้ อะไรเข้าตาหรือว่าเกลือเข้าตาทำไมมันแสบมันพร่ามัวมองอะไรไม่เห็น ก็เริ่มมองไม่เห็นเลย ตัวหนังสือที่เขาเขียนขึ้นไปบนเวทีคือไม่เห็นเลยครับ ไม่เห็นจริงๆ ข้างขวานะ เพิ่งเป็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ คุณหมอบอกว่าเลนส์ตาหลุด”
“ตอนที่มองไม่เห็นแล้ว ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาชัยก่อนที่จะพบกับบิณฑ์ หมอบอกว่าเลนส์ตามันหลุด เห็นด้ายโผล่มา เขาก็ให้ผมหาประวัติที่เคยไปรักษาที่วัดไร่ขิง ทีนี้มาเจอบิณฑ์ก่อน ก็เลยยังไม่ได้ไปเลยมาหาหมอที่นี่เลย”
แสงสุรีย์ : “ก็หงุดหงิดครับเดินไปไหนมันก็สะดุด พอดีก็ไปร้องเพลงไม่ได้โควิดระบาด เลยหยุดยาว ปกติไม่มีโควิดก็จะร้องเพลงตามงานวัด ได้ 5-6 พัน บางทีก็หมื่นนึงแล้วแต่ไกลใกล้”
“คิดว่าจะต้องสร้างชีวิตใหม่ให้ผมแน่นอน ต้องมองเห็นแน่นอน เพราะคุณหมอบอกไว้แล้ว จะได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง ก็ดีใจครับ มันภาคภูมิใจ เพราะว่าถ้าเรามองเห็น อะไรๆก็จะสะดวกขึ้นครับ จะไม่ลำบากคนอื่น”
“ก็อยากบอกเจ้านายทั้งสองคนนะครับ ที่ช่วยเหลือผมในครั้งนี้ ก็เหมือนได้มอบชีวิตใหม่ให้ผมอีกครั้งหนึ่ง ให้ผมได้มองเห็น”
บิณฑ์ : “ก็เป็นอะไรที่ผมอยากจะตอบแทนบุญคุณด้วยที่เอาเพลงเขาไปร้อง เอาเงินมากินไม่รู้กี่ล้านแล้ว ได้เจอพี่แสงสุรีย์ครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นึกถึงคนแรกเลย แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ วันเกิดผม 27 พฤษภาคมจะถึงอยู่วัน 2 วันนี้แล้ว ผมเคยติดต่อ แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ มาร้องเพลงให้ผมฟังเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พี่เขามาแบบหล่อมาเลยครับ ใส่สูทมานึกในใจพี่เขานี่มีฐานะแต่งตัวดีมากร้องเพลงอยู่ 3 เพลงผมดีใจมากวันนั้นศิลปินลูกทุ่งทั้งหมดที่ผมชื่นชอบมาประมาณ 10 กว่าคน คือผมอยากจะให้กลับมาร้องเพลงอยากจะมอบสินน้ำใจให้กับพี่ๆเขา ถ้ามีโอกาสจะจัดงานหรืออะไรก็แล้วแต่
“นักร้องพวกนี้ยังมีคุณภาพอยู่ ยังอยากที่จะร้องเพลงอยู่ แต่ไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครให้ไปร้องเพลง เอาพวกเขากลับมาครับ เขาจะได้มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะได้เป็นขวัญใจของพี่น้องประชาชน ผมว่าอายุ 40 ขึ้นไปรู้จักหมด แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ เจ้าของเสียงเพลง รักสาวเสื้อลาย“
แสงสุรีย์ : “ครับ เป็นการขอบคุณด้วย ตั้งใจแต่งขอบคุณทุกคน แต่เนื้อหาก็เกี่ยวกับผมด้วย ช่วงที่ผมตกทุกข์ได้ยาก ช่วงที่ไปร้องเพลงไม่ได้ เพราะว่าสายตาไม่ดีแล้วก็พอดีกับโควิด-19 ด้วย ไปร้องเพลงไม่ได้ก็ไม่มีรายได้ ก็เลยแต่งเพลงนี้ขึ้นมา โดยที่ผู้ประพันธ์ช่วยกันสนับสนุน อยากให้ผมได้มีตังค์ ถ้ากดไลค์กันเยอะๆ ผมก็จะได้บ้างก็ยังดีครับ
(ร้องเพลง แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ คนโปรดคุณผู้ฟัง ร้องเพลงโด่งดัง ยังไม่มีรถขี่ หลายปีที่ผ่านมา หิ้วกระเป๋าจนเอือมระอา ใส่เสื้อลายเต๊ะท่า ขึ้นรถเมล์ประจำ เช่าบ้านหลังนี้อยู่มานาน ทรุดโทรมตามกาล ใครสงสารผมบ้าง น้องนางก็จากกัน พบบิณฑ์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ มาช่วยชีวิตตอนที่ผมตกต่ำระกำมากกว่าใคร)”
นอกจากความช่วยเหลือจากบิณฑ์แล้ว มีคนติดต่อเข้ามาช่วยเหลือบ้าง แต่ไม่ได้เปิดรับบริจาคอะไร และไม่เปิดบัญชีด้วย เพราะกลัวคนจะมองว่าสร้างภาพ
แสงสุรีย์ : “มีบ้างครับ แต่ผมไม่รับบริจาคอะไรเลย ไม่เปิดบัญชีอะไรเลย มีคนบอกว่าทำไมไม่เปิด คนจะหาว่าเราสร้างภาพเกินไปครับ”
ฝากถึงบางคนที่ไม่เชื่อว่าเป็นนักร้องตกอับจริงๆ เพราะเมื่อก่อนก็รุ่งโรจน์มาก ว่าอยากให้ดูดีๆ ตนไม่ได้สร้างภาพจน แต่มันเป็นเรื่องจริง
แสงสุรีย์ : “ก็มีชื่อเสียงตอนนั้น พวกที่ทำแผ่นเสียงก็ยังอยู่ แต่พอเขาตายหมดแล้ว ผมก็ไม่มีคนทำ (ตอนนี้คนก็จ้องโจมตีเราอยู่) ตอนนี้ถ้าผมเปิดบัญชีรับบริจาคมีแน่นอนครับ เขาพูดมาเลยว่าอย่าสร้างกระแส เราก็เลยไม่เปิดหรอกครับเพราะเขาพูดมาแล้วในเน็ตเยอะที่พูดอย่างนี้ก็มีส่วนน้อย แต่พูดว่าน่าสงสารมีเยอะมากกว่า เราก็ไม่น้อยใจหรอกครับ เขาไม่เข้าใจเขาไม่รู้ว่าผมยากจนจริงๆ เงินที่ได้เมื่อก่อนมันก็ใช้หมดไป มันหลายปีแล้ว เราเป็นนักร้องเก่าแล้ว ก็อยากจะบอกคนที่คิดแบบนี้ว่ามองดูดีๆ ผมไม่ได้สร้างภาพครับ ที่เห็นในบ้านผมมันเป็นเรื่องจริงครับ”
จากเคสของ แสงสุรีย์ แล้ว ยังไม่มีเคสนักร้องคนอื่นมาขอความช่วยเหลืออีก บิณฑ์ กล่าวว่า
บิณฑ์ : “ตอนนี้ยังครับ แต่ผมว่าข่าวของพี่แสงสุรีย์ออกไป น่าจะก้าวกันออกมา”
แสงสุรีย์ : “มีอีกครับ มีเยอะเลย แต่ผมไม่บอกชื่อ เป็นแบบผม หรือด้อยไปกว่าผมก็มีเยอะครับ แต่เขาไม่กล้าแสดงตัวเลย เพราะว่าเขาอายหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะเขาเคยดังมาก่อน”
บิณฑ์ : “ผมถึงบอกว่าสิ่งหนึ่งที่เขาไม่กล้าออกมาเปิดเผยกับสังคม เพราะว่าเขาเคยเป็นนักร้องที่โด่งดังมากสมัยก่อน อย่าง พี่แสงสุรีย์ ใครจะคิดว่าจะอยู่อย่างนี้ เคยมีเงินร้องเพลงวันละ 5 พัน วันละหมื่น ตอนนี้ 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีที่ไปร้องเพลง ไม่มีใครที่จะให้ร้อง มันก็หมดสิครับ เพราะฉะนั้นนักร้องเก่าๆ หรือคนที่อยู่ในสภาพแบบนี้ บอกผมเถอะครับ ผมจะเก็บไว้เป็นความลับ”
หลังจากนี้จะช่วยเหลือต่อไป ทั้งเรื่องเงินและปรับปรุงบ้าน
บิณฑ์ : “ผมก็จะช่วยเหลือหมดแหละครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่ ค่าเช่าบ้าน หรือจะเป็นเรื่องเงินในการช่วยเหลือเบื้องต้นผมก็ยินดีที่จะช่วย อย่างวันนั้นที่ผมไป ผมไปเจอโดยบังเอิญต่างหากนะ ถ้าผมรู้ไอ้เงินหมื่นนึงผมไม่ได้ให้พี่เขาหรอก ผมจะให้มากกว่านั้น แต่ถ้าโควิดผมจะให้ครอบครัวละ 500 บาท แต่ไปเจอพี่เขามันก็ต้องมากกว่าพิเศษกว่า เพราะคือขวัญใจของผม หลังจากนี้ก็จะช่วยเหลือเพิ่มแน่นอน แต่ต้องดูว่าบ้านของพี่เขาจะทำอะไรได้บ้าง ก็คงจะไปช่วยปรับปรุงเรื่องบ้านก่อน ปรับปรุงบ้านก็ต้องก้อนโตอยู่แล้ว อย่างน้อยก็เป็นแสนอยู่แล้ว”
แสงสุรีย์ : “ตอนนี้เงินหมื่นก็ยังเหลืออยู่นิดหน่อยครับ”