Technology

‘หัวเว่ย’ เปิด 3 เทรนด์โลก ‘ทรานส์ฟอร์ม’ อุตสาหกรรม 5G

หัวเว่ย เผย 3 เทรนด์ระดับโลก ที่จะเข้ามาทรานส์ฟอร์มอุตสาหกรรม 5G พร้อมเดินหน้าลงทุนและออกสิทธิบัตรด้าน 5G ต่อเนื่อง

นายหลิน เหยียนชิง ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แผนกประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กรบริษัทหัวเว่ย กล่าวในงาน “Huawei Galileo 5G Online Live Tour” ว่า ขณะนี้อุตสาหกรรม 5G ในระดับโลกกำลังเผชิญกับ 3 เทรนด์หลัก ประกอบด้วย

5G

  • เทรนด์การเปลี่ยนผ่านจากการติดตั้งที่มีพื้นฐานหลักปฏิบัติการแบบ TDD สู่การติดตั้งที่มีการผสมผสานระหว่างหลักปฏิบัติการ TDD และ FDD

ในระยะแรกของการเปิดตัวเครือข่าย 5G ทั่วโลก การใช้คลื่นความถี่ต่างๆ แบบ TDD ใน Massive MIMO ซึ่งอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย 4G ได้กลายเป็นหลักปฏิบัติมาตรฐาน แต่หลักปฏิบัติการแบบ TDD นั้นโดยธรรมชาติแล้วมีข้อจำกัดทั้งในด้านการครอบคลุมและการมอบประสบการณ์การใช้งาน

ขณะที่หลักปฏิบัติการแบบ FDD กลับสามารถส่งมอบการรับส่งข้อมูลได้อย่างสมดุล ทั้งยังส่งมอบการครอบคลุมที่ทั่วถึงภายในตัวอาคารอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถเปิดตัวเครือข่าย 5G โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้การผสมผสานดังกล่าวจะทำให้สามารถตอบรับการใช้งานบนช่องสัญญาณความถี่ขนาดใหญ่ของแอปพลิเคชันที่ใช้งานระหว่างองค์กรด้วยกัน (B2B)

  • การเปลี่ยนผ่านจากการทำธุรกิจระหว่างเจ้าของธุรกิจกับผู้บริโภครายบุคคล (Business-to-Customer – B2C) และระหว่างเจ้าของธุรกิจกับบุคคล (Business-to-Human) สู่การพัฒนาที่ครอบคลุมการทำธุรกิจทั้งแบบ B2C, B2H และธุรกิจสู่ธุรกิจ (B2B)

5G Online Live Tour 3

เครือข่าย 5G ในปัจจุบันสามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายศักยภาพสูง (eMBB) สำหรับการใช้งานในเชิงอุตสาหกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น การสาธารณสุขแบบอัจฉริยะ โรงพยาบาลมิตรภาพจีนและญี่ปุ่น (China-Japan Friendship Hospital) มีบริการให้คำปรึกษาระยะไกล (teleconsultation) ผ่านวิดีโอความคมชัดสูงโดยใช้เทคโนโลยี 5G และโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยเวสต์ไชน่าแห่งที่สอง (West China Second University Hospital) ยังได้นำเทคโนโลยี 5G ไปใช้สำหรับการเยี่ยมไข้ในห้องไอซียู รวมถึงการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วยของแพทย์และพยาบาล

นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรมที่ต้องการความหน่วงต่ำและความเสถียรในระดับสูง (Ultra-Reliable Low-Latency Communication – URLLC) ตัวอย่างเช่น ท่าเรือ, อุตสาหกรรมการผลิต, การสื่อสารระหว่างยานพาหนะกับสิ่งต่างๆ (Vehicle-to-Everything – V2X) และระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (power grid) ก็กำลังมีการศึกษา วางมาตรฐาน รวมถึงเริ่มนำร่างการใช้งานในอุตสาหกรรมโดยเริ่มติดต่อและทดลองนำไปติดตั้งใช้งาน

5G Online Live Tour 2

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงาน (OPEX) ที่ลดลงจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ 5G สู่ความสำเร็จ

ขั้นตอนการติดตั้งไซต์ที่สะดวกและง่ายจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย นอกจากนี้ เทคโนโลยีการเข้าถึงคลื่นวิทยุแบบอเนกประสงค์และการประสานการใช้งานแถบความถี่ต่างๆ ยังช่วยปรับปรุงเครือข่าย O&M และเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการประหยัดพลังงาน ซึ่งการหยุดให้บริการเครือข่าย 2G และ 3G (มีเครือข่ายทั่วโลก 17 เครือข่ายที่ได้สิ้นสุดการให้บริการแล้ว และอีก 12 เครือข่ายกำลังจะปิดตัว) จะทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายลดค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงานในขั้นตั้น

“เครือข่าย 5G จะช่วยยกระดับขึ้นไปอีกขั้นของการให้บริการด้านความเร็วสูงบนโทรศัพท์มือถือรายบุคคล พร้อมทั้งยัง ผสานรวมการสื่อสารไร้สายในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมให้เป็นรูปแบบดิจิทัล  และสร้างโลกแห่งการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ ตัวอย่างการใช้งานเครือข่าย 5G ที่โดดเด่น เช่น การขับขี่แบบอัตโนมัติ โรงงานอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ทางไกล” นายหลินกล่าว

5G Online Live Tour 1

นับตั้งแต่ปี 2552 – 2562 การลงทุนของหัวเว่ยในด้านเครือข่าย 5G (ไม่นับรวมถึงอุปกรณ์ 5G) มีมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหัวเว่ยได้วางมาตรฐาน 9 ประการสำหรับเครือข่าย 5G รวมถึงศูนย์วิจัยทั่วโลกซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 คนที่คอยกำหนดมาตรฐานต่างๆ ปัจจุบันหัวเว่ยครอบครองกลุ่มสิทธิบัตรด้านเครือข่าย 5G กว่า 3,367 รายการ ซึ่งนับเป็น 20% ของสิทธิบัตร 5G ทั้งหมด และครองอันดับ 1 ในกลุ่มผู้จัดจำหน่ายเครือข่ายสัญญาณด้วยกัน

Avatar photo