Properties

พลัสฯผนึกเอเยนต์อินเตอร์เจาะขายลูกค้าต่างชาติ

khun Somsakul 2
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจตัวแทนขาย เปิดเผยว่า ธุรกิจการให้บริการตัวแทนขายและทำการตลาดในปีนี้ ถือว่าเติบโตอย่างน่าพอใจ โดยบริษัทสามารถเดินตามแผนที่ตั้งไว้ตามกลยุทธ์การเป็นที่ปรึกษา ขยายการพัฒนาโครงการเพื่อขายจากโครงการในระดับ C, C+ ไปสู่กลุ่มตลาดบนมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด

ปัจจุบันผู้ประกอบการเน้นเจาะลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น พลัสฯได้ใช้กลยุทธ์ช่วยให้งานขายของลูกค้า สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างชาติได้มากขึ้น โดยการจับมือกับเอเยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญตลาดกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งวิธีนี้เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวไทย เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้เร็ว และสร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้น โดยพลัสฯได้ใช้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารราคา และการใช้สายสัมพันธ์กับเอเยนต์ที่มีอยู่ เข้ามาช่วยเสริมจุดแข็งได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลด้านบริหารงานขายและการตลาดใน 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนจากซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) และ เคฮัง เรียลเอสเตท บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเทศญี่ปุ่น มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น จำนวน 220 ยูนิต ตั้งอยู่ซอยเอกมัย 12 ด้วยคอนเซ็ปต์ Luxury Modern Japanese มีความเรียบง่ายอบอุ่นแต่หรูหรา เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับดีเกินคาดทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ จนสามารถปิดการขายได้เกินเป้าที่วางไว้แล้วถึง 60%

ถัดมาคือโครงการ QUINTARA TREEHAUS สุขุมวิท 42 ของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นคอนโด Low Rise สูง8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 304 ยูนิต ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัยและทางด่วนเฉลิมมหานคร คาดว่าแล้วเสร็จพร้อมโอนในปี 2563 มีมูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ได้ผลตอบรับเกินคาด ทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ สามารถปิดการขายได้เกินเป้าหมายที่วางไว้แล้วถึง 90%

“ทั้งสองโครงการมีความคล้ายคลึงกัน คือลูกค้าเป็นกลุ่มรายได้ 8 หมื่นบาทต่อเดือนขึ้นไป เป็นพนักงานออฟฟิศระดับหัวหน้างาน หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ระบบขนส่งมวลชน เดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก และเป็นทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยเองหรือลงทุน มีจำนวนที่จอดรถเพียงพอ” นางสาวสมสกุล กล่าวและว่า นอกจากนี้

ทั้งสองโครงการดังกล่าว เป็นโครงการจากกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นลูกค้าเดิมของพลัสฯ และได้ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ในลักษณะของพันธมิตรในการวางแผนธุรกิจ ซึ่งพลัสฯ ได้เข้าไปมีส่วนช่วยสนับสนุนลูกค้า ใช้จุดแข็งที่มีคือฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data เข้ามาช่วยวิเคราะห์โครงการ ทั้งความต้องการของผู้ซื้อที่แท้จริงในด้านทำเล ขนาดห้อง ราคา การออกแบบ รวมทั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ ทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการบางกลุ่มสามารถพัฒนาโครงการใหม่ ให้ขยายไปสู่ลูกค้าในกลุ่มระดับบนมากขึ้น

สำหรับช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ พลัสฯคาดว่าจะมีอีก 2 โครงการที่ได้เข้าไปบริการงานขายและการตลาด โดยอยู่ในโซนสุขุมวิท ประดิพัทธ์ และพระรามเก้า รวมมูลค่าประมาณ 3,200 ล้านบาท

Avatar photo