ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยปี 63 หดตัวราว 5.0% ชี้ฟื้นช้าจากข้อจำกัดด้านกำลังซื้อ และมาตรการเว้นระยะห่าง แนะผู้ประกอบการเน้นตลาดในประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2563 หดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1/2562 จากปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภาวะภัยแล้ง และความล่าช้าของพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ทำให้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแทบทุกตัวหดตัวลง
สำหรับการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังขยายตัวได้ 3% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1/2562 ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวจากการซื้ออาหารและเครื่องดื่มก่อนประกาศมาตรการล็อกดาวน์
ขณะที่ภาพรวมตลอดปี 2563 นี้ คาดว่า ภาพรวมการใช้จ่ายครัวเรือนคาดว่าจะหดตัวที่ 1.5% ท่ามกลางการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานประกอบการหยุดชั่วคราวในช่วงเดือนเมษายน และธุรกิจทยอยปิดกิจการ ทำให้กำลังซื้อและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยลดลง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าคงทน
ทั้งนี้ แม้ว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายลงในไตรมาส 2/2563 และไม่มีการแพร่ระบาดซ้ำ แต่เศรษฐกิจไทยจะยังไม่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้เร็ว เนื่องจาก แนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้เงื่อนไขการรักษาระยะห่างโดยเฉพาะในภาคบริการทำให้ธุรกิจมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ในขณะที่รายรับถูกจำกัดด้วยกำลังซื้อและเงื่อนไขการรักษาระยะห่าง
นอกจากนี้ การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังทำให้เศรษฐกิจไทยต้องหันกลับมาพึ่งพิงตลาดในประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยมาตรการภาครัฐที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยประคับประคองการดำรงชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวลึกกว่าการหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในไตรมาสที่ 2 จะหดตัวลึกที่สุดราวหรือติดลบราว 10% ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 หดตัวราว 5%
ทั้งนี้ หากไม่มีการระบาดรุนแรงอีกระลอก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในช่วงครึ่งปีหลังอาจเป็นบวกได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังไม่กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอาจยังคงติดลบอยู่เล็กน้อย
- ผ่านฉลุย! ‘ศบค.’ เคาะขยายเวลา ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ ถึงสิ้นเดือนมิ.ย.
- ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ ฟันธง! ‘กนง.’ หั่นดอกเบี้ยลง 0.25%
- กสิกรไทยส่อง ‘New Normal’ ธุรกิจ หลังวิกฤติ ‘โควิด-19’