นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็น ถึงกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติคลายล็อกระยะที่ 2 ว่า การคลายล็อกเพิ่ม แต่ยังคงเคอร์ฟิวอยู่นั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่กลับมองว่าเมื่อมีแรงกดดัน ประชาชนแสดงความรู้สึกมากๆ รัฐบาลก็ใช้วิธีการเดิมๆ คือโยนชิ้นเนื้อให้หลอกประชาชนไปเรื่อยๆ คือผ่อนปรนแต่เนื้อหาทั้งหมดเพียงเพิ่มเวลากลับบ้านให้ช้าลงอีก 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เพราะฉะนั้น จากสถานการณ์ตอนนี้ส่งต่อระหว่างช่วงสถานการณ์วิกฤติโรคระบาด กลายมาเป็นวิกฤติ โรคไม่มีสักบาท คือเป็นปัญหาเศรษฐกิจของประชาชน ดังนั้นวันนี้รัฐบาลจะต้องมองปัญหาเศรษฐกิจของประชาชน เพราะการเสียชีวิตจากปัญหาเศรษฐกิจอาจจะมากกว่าวิกฤติโรคระบาดก็ได้
พร้อมกันนี้นายณัฐชา กล่าวต่อว่า หากยังคงเป็นอย่างนี้ ทางพรรคก้าวไกลยืนยันว่า ในสถานการณ์เช่นนี้รัฐบาลควรยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้วิธีการอื่นๆ คือสามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อติดตามประชาชน และการเดินทางประชาชนได้ เพราะโรคระบาดไม่ได้กลัวกลางคืน แต่โรคระบาดสามารถติดต่อกันได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ส่วนตัวมองว่า ที่ทางรัฐบาลยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องของสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะมีเจตนาอื่นๆ แอบแฝงด้วย
- ‘ทูลกระหม่อมฯ’ ทรงแนะไทยคลายล็อกดาวน์เปิดประเทศได้แล้ว!
- ผลโพลเผยคนชอบใจ ‘คลายล็อกดาวน์’ แต่แอบหวั่น ‘โควิด’ ระบาดรอบใหม่
- สธ.เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 ช่วงคลายล็อก เน้นค้นหากลุ่มเสี่ยง-สถานที่เสี่ยง