หลังโควิด-19 ปรับวิถีการทำธุรกิจแบบใหม่…ตลาดไทยเที่ยวไทย ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ คำนึงถึงระยะห่างทางสังคม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งอาจจะทำให้กิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยค่อยๆ กลับคืนมา แต่ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ตลาดคงจะยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยลบ เช่น ความกังวลของนักท่องเที่ยวเพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงผลกระทบจากความเชื่อมั่นต่อการมีงานทำ และกำลังซื้อที่อ่อนแอของประชาชน หลังกิจกรรมเศรษฐกิจส่วนใหญ่หยุดชะงัก
ภายใต้สมมติฐานที่โควิค-19 ไม่กลับมาระบาดอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ตลาดไทยเที่ยวไทยในปี 2563 อาจหดตัวประมาณ 52.3% ถึง 46.4% มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศราว 79.5-89.5 ล้านคน-ครั้ง ขณะที่รายได้การท่องเที่ยวในประเทศน่าจะมีมูลค่า 4.85-5.45 แสนล้านบาท หดตัวราว 55.1% ถึง 49.4% จากปีก่อน อย่างไรก็ดี ท่ามกลางภาพเชิงลบของตลาด โดยตลาดนักท่องเที่ยวระดับบนจะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวกลับมาได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ
หลังโควิด-19 ธุรกิจท่องเที่ยวยังมีความท้าทาย ในการปรับวิถีการดำเนินธุรกิจใหม่ (New Business Norms) จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อาทิ ปรับรูปแบบการให้บริการโดยคำนึงถึงระยะห่างทางสังคม ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมการตลาดโดยใช้ช่องทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ ร่วมเป็นพันธมิตรกับธุรกิจท่องเที่ยวหรือร้านค้าในชุมชน เพื่อลดต้นทุนและช่วยฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวในชุมชนให้เข้มแข็งเร็วขึ้น ฯลฯ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอาจเผชิญกับสภาพคล่องที่จำกัด ทำให้ยังต้องระมัดระวังควบคุมรายจ่ายโดยให้มีผลกระทบต่อการบริการน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสต็อคสินค้า การจ้างงานหรือการจัดกิจกรรมการตลาดที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น
ภาพปกจาก Pixabay
- ธปท. เผยอุตฯท่องเที่ยว-ค้าปลีก-ผลิต-อสังหาฯ โควิดซัด ‘อ่วม’ ถ้วนหน้า
- ‘ททท.’ ใจชื้น จีนส่งสัญญานบินมาไทย หวัง 5 เดือน ท่องเที่ยว ‘เริ่มฟื้น’
- นักวิชาการ มธ. แนะหลังโควิด-19 ต้องคิดใหม่ ลุย ‘ท่องเที่ยวพรีเมียม’