“ไทยแอร์เอเชีย” หั่นเป้าผู้โดยสารเหลือ 11 ล้านคน น้อยกว่าปีที่แล้ว 51% ลุยหั่นแหลกแผนลงทุนก้อนใหญ่ โครงการจัดหาเครื่องบิน พร้อมลุ้นแพคเกจภาครัฐ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำพยุงธุรกิจ
รายงานข่าวจากบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (TAA) ซึ่งให้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 ของ AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,399 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวของปีก่อนและมีผลขาดทุนสุทธิ 671 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 4.5 ล้านคน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 23% และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 84% สอดคล้องกับผลกระทบจากมาตรการจำกัดด้านการเดินทางและความต้องการเดินทางที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19)
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับเส้นทางบินและปรับแผนปริมาณที่นั่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำการบินและสอดคล้องกับความต้องการเดินทาง รวมถึงลดความถี่และยกเลิกเส้นทางบินในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาด ส่งผลให้ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารอยู่ที่ 4,834 ล้านที่นั่ง ลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (TAA) กล่าวว่า ในช่วงปลายไตรมาส 1 ของปี 2563 เป็นต้นมา ภาคบริการรวมทั้งแอร์เอเชียได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อยอดการเดินทางของผู้คนจำนวนมาก โดยแต่ละประเทศได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้ไทยแอร์เอเชียจำเป็นต้องประกาศหยุดบินชั่วคราวในเส้นทางบินระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 สอดคล้องกับประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท. หรือ CAAT) และประกาศหยุดบินชั่วคราวในเส้นทางบินภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2563
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ TAA ได้เริ่มกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ในเส้นทางหลักๆ หลังจากเริ่มมีสัญญาณและผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทั้งนี้การให้บริการดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรฐานสุขอนามัยและกำกับดูแลโดย CAAT โดยการเดินทางในช่วงแรกยังเป็นการเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์ที่จำเป็น เช่น การทำธุรกิจ ทำงาน กลับภูมิลำเนา ยังไม่ใช่การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ขณะที่เส้นทางบินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าจะกลับมาให้บริการได้ในไม่ช้าเมื่อแต่ละประเทศประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางมากขึ้น
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้วางแผนและปรับแผนตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการบริหารจัดการต้นทุน ทั้งการปรับโครงสร้างการป้องความเสี่ยงน้ำมันเชื้อเพลิงล่วงหน้าบางส่วนและอยู่ระหว่างเจรจาในส่วนที่เหลือ ซึ่งจะชะลอผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงหากราคาน้ำมันยังอยู่ ณ ระดับปัจจุบัน อีกทั้งผู้บริหารระดับสูงและพนักงานระดับอาวุโสของบริษัทสมัครใจรับเงินเดือนที่ลดลงตามระดับตำแหน่ง รวมทั้งบริษัทยังเตรียมความพร้อมหาเงินทุนสำรอง ผ่านการกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) กับรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุนให้รัดกุมมากที่สุด โดยอาจระงับหรือชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง อีกทั้งพิจารณาระงับการจัดหาเครื่องบินเพิ่มในปีนี้ เพื่อให้มีจำนวนฝูงบินที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
“สำหรับตลอดปี 2563 บริษัทจะปรับลดเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารมาอยู่ที่ 11 ล้านคน ลดลง 51% จากปีก่อน โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสารลดลงอยู่ที่ 80% หรือลดลง 5 จุด และยังคงต้องติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังหากมีการผ่อนปรนมาตรการและข้อกำหนดด้านการเดินทางมากขึ้น อาจจะเริ่มเห็นการเดินทางระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในตลาดจีน” นายสันติสุขกล่าว
- ‘คลัง’ ยังไม่สรุปเงินกู้ 2.5 หมื่นล้าน ‘แอร์ไลน์’ วอนลำบากขอ 25% ก่อนเดือนนี้
- ‘การบินไทย’ เปิดให้จองตั๋ว! เตรียมกลับมาบินอินเตอร์ 37 เส้นทาง เริ่ม 1 ก.ค.