วัตฟอร์ด เป็นสโมสรล่าสุดที่ออกตัวไม่เห็นด้วยกับโปรเจกต์รีสตาร์ต “Project Restart” ที่ต้องการให้พรีเมียร์ลีกกลับมาลงเล่นฤดูกาล 2019/20 แบบสนามกลางในเดือนมิถุนายนนี้
ก่อนหน้านี้ทีมท้ายตารางอย่างแอสตัน วิลล่า และ ไบรท์ตัน ต่างคัดค้านการเตะสนามกลางเมื่อมองว่าหากได้เล่นในสนามเหย้าของตัวเองมีโอกาสเก็บแต้มเพื่ออยู่รอดได้ ล่าสุด”แตนอาละวาด” รั้งอันดับ 17 ของตาราง ออกตัวคัดค้านเรื่องดังกล่าวอีกทีม
สก็อตต์ ดักซ์บิวรี่ ซีอีโอวัตฟอร์ดเปิดเยกับเดอะ ไทม์ส ว่า “มันมีส่วนได้เสียที่แตกต่างกันของทั้ง 20 ทีม ซึ่งบางครั้งเห็นตรงกัน แต่ส่วนมากแล้วเป็นการปกป้องผลประโยชน์ตนเองของแต่ละสโมสร”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายสโมสรถึงยินดีที่จะลงชื่อใน Project Restart เพราะเชื่อกันว่ามีแต่ผลดีที่จะเข้าร่วมกับรูปแบบนี้”
“มันหมายถึงลิเวอร์พูลจะได้เป็นแชมป์ สโมสรต่างๆสามารถได้สิทธิ์ไปเล่นบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า หรือความเป็นไปได้ที่จะสู้เพื่อขยับอันดับในตารางจากตำแหน่งที่ปลอดภัยอยู่แล้ว”
“แต่เมื่ออย่างน้อยมี 6 สโมสร ซึ่งผมเดาว่ามีมากกว่านั้น กำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลเสียและผลกระทบที่เลวร้ายในการเล่นมินิลีก 9 นัดที่เหลือแบบนี้ ผมก็เชื่อว่าพรีเมียร์ลีกก็มีหน้าที่ที่ต้องดูและจัดการความกังวลนั้น”
ทั้งนี้พรีเมียร์ลีกจะมีการนัดประชุมในวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม เพื่อหารือข้อตกลงต่างๆ เช่น เรื่องสนามกลาง ระเบียบปฏิบัติต่างๆในการให้ผู้เล่นลงซ้อมร่วมกัน เรื่องสัญญานักเตะและอื่นๆ
โโยมีรายงานว่าพรีเมียร์ลีกต้องการคะแนนโหวต 14 ต่อ 6 ขึ้นไปเพื่อเดินหน้าโปรเจกต์ต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้มี 6 ทีมท้ายตารางไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะเล่น 92 นัดที่เหลือแบบสนามกลางทำให้เกิดกระแสข่าวว่าบรรดาทีมทีมอื่นๆขูว่าหากยังคัดค้านจะเสนอโหวตให้ 3 ทีมสุดท้ายตกชั้นไปเลยเนื่องจากหากกลับมาแข่งต่อไม่ได้ก็จำเป็นต้องให้ 3 ทีมบ๊วยมีการตกชั้นอยู่ดี
