“สหภาพฯ” ยื่นหนังสือถึง “นายกฯ” หนุนแผนฟื้นฟูและขอมีส่วนร่วมในการนำไปปฏิบัติ กำกับเงินกู้ 5 หมื่นล้าน ยันไม่ให้ “การบินไทย” จบง่ายๆ เหมือนที่คนปรามาส แต่แสดงจุดยืนค้านแนวคิดแยกหน่วยธุรกิจและแปรรูป ระบุบริษัทต้องเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (8 พ.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรื่อง จุดยืนของสหภาพฯ ต่อกรณีแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
หนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาสำคัญว่า “สหภาพฯ ขอแสดงจุดยืนในการดูแลบริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) โดยเน้นในเรื่องของสถานะสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ และการอยู่ร่วมกันของหน่วยงานทุกหน่วยงานของบริษัท และการคุ้มครองสิทธิประโยชน์รวมถึงสวัสดิการของพนักงานบริษัททุกท่านตามสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม ตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
สหภาพฯ ขอแสดงความเห็นด้วยกับการปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์กร การเพิ่มรายได้ การลดค่าใช้จ่าย การกำจัดอิทธิพลทางการเมือง ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ รวมถึงการลดขนาดขององค์กรอย่างถูกต้องตามกฎหมายและด้วยความสมัครใจของพนักงาน ตามแผนฟื้นฟูบริษัทที่จะผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และไม่กระทบกับสภาพการจ้างของพนักงานบริษัท
สหภาพฯ และพนักงานบริษัทยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการฟื้นฟูการบินไทย โดยขอแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการแปรรูปบริษัท ด้วยการแบ่งแยกหน่วยธุรกิจของบริษัทออกจากกัน และ/หรือ มีผลให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติและต้องเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
อนึ่ง เพื่อความสมบูรณ์ของแผนฟื้นฟูในการทำให้บริษัทดำเนินไปตามแผน สหภาพฯ ขอทำหน้าที่ในการตรวจสอบ และ/หรือมีส่วนร่วมรับรู้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการปฎิบัติ เพื่อให้แผนฟื้นฟูนี้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์
จึงเรียนมาเพื่อแสดงจุดยืนของสหภาพฯ ให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ และใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจ และสั่งการต่อไป”
- สหภาพการบินไทยยื่นหนังสือนายกฯวันนี้ – คัดค้านการแปรรูปบริษัท
- สหภาพฯ แฉวงในเน้นขายตั๋วผ่านเอเจ้นท์ ทำ ‘บินไทย’ สูญรายได้ปีละหมื่นล้าน
นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เปิดเผยหลังการยื่นหนังสือดังกล่าวว่า เรามาบอกกับนายกรัฐมนตรีว่าเห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูบริษัท เนื่องจากเป็นทางรอดทางเดียว ขณะเดียวกันยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีและภาคประชาชนอาจจะขาดความเชื่อว่า จะฟื้นฟูองค์กรได้จริงไหม นายกรัฐมนตรีก็ตั้งข้อสังเกต เพราะแผนฟื้นฟูปี 2558 กู้เงินไปหนึ่งรอบแล้ว วันนี้กลับมากู้เงินใหม่อีก
ในครั้งนี้ เพื่อทำให้แผนฟื้นฟูเกิดประสิทธิภาพและประโยชน์ที่แท้จริง สหภาพฯ และพนักงานการบินไทย 2 หมื่นคน ยินดีให้ความร่วมมือและขอเข้ามามีส่วนร่วมในการนำแผนไปปฏิบัติ ตรวจสอบและกำกับการใช้เงินกู้ 5 หมื่นล้านบาทอย่างคุ้มค่า ไม่ใช่สร้างหนี้และปัญหาใหม่ตามมา
การทำแผนฟื้นฟู 3 ครั้งที่ผ่านมา พนักงานไม่ได้มีส่วนร่วมหรือรับรู้ ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ถามถึงพวกเราในครั้งนี้ โดยสหภาพฯ ต้องการให้นายกรัฐมนตรีกำกับว่า หลังจาก ครม. เห็นชอบแผนฟื้นฟูแล้ว ก็ให้พนักงานเข้าไปมีส่วนร่วมกับการนำแผนไปฏิบัติด้วย เพราะแผนฟื้นฟูทุกอย่างกระทบกับพนักงาน ถ้าพนักงานไม่ให้ความร่วมมือไปไม่ได้แน่นอน
“ท่านบอกครั้งสุดท้าย เราไม่ให้องค์กรเราจบง่ายๆ อย่างที่หลายคนคิด เราจะต้องขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูองค์กรโดยที่พนักงานมีส่วนร่วม ถ้ามันจะจบ ขอให้เราร่วมจบกับบอร์ด ผู้บริหารในองค์กรด้วย อย่าจบเพราะว่าคนอื่นกำหนดให้เราจบ” นายนเรศกล่าว
สำหรับกรณีโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรัฐบาลอุ้มสายการบินไทยนั้น นายนเรศกล่าวว่า การบินไทยมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ในอดีตรัฐบาลเป็นคนกู้เงินให้บริษัท แล้วรัฐบาลเป็นหนี้เป็นแทน แต่หลังจากปี 2552 รัฐบาลก็ผลักให้เป็นหนี้ของรัฐวิสาหกิจเอง เพราะฉะนั้นการกู้เงิน 5 หมื่นล้าน เป็นเงินกู้ที่รัฐบาลค้ำประกันให้ แต่พนักงานและบริษัทต้องจ่ายหนี้เอง
