บทบรรณาธิการของวารสารความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ (Science Advances) ที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ระบุว่า การรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของสหรัฐ เผยให้เห็นข้อบกพร่องและปัญหาความไม่เท่าเทียมในระบบสาธารณสุขของประเทศ รวมทั้งสิ่งที่ต้องปรับปรุงเพื่อรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต
ไมอา ดอร์เซตต์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ กล่าวว่า ระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ ต้องเกิดสิ่งกระตุ้นเสียก่อนจึงจะดำเนินการรักษา แทนที่จะเป็นการรักษาเชิงรุก
การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ถูกกล่าวถึงว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมหาศาล เมื่อจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตาย มากกว่าจำนวนทรัพยากรในท้องถิ่น เช่น บุคลากรและอุปกรณ์ และยังสะท้อนว่า ระบบสาธารณสุขที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาสุขภาพของประชากรทั่วไปนั้นได้รับเงินทุนต่ำและไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ยังพบว่า หน่วยงานฉุกเฉินต้องปฏิบัติงานเกือบเต็มหรือเกินขีดความสามารถ ขณะที่ปัญหาพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย ความมั่นคงด้านอาหาร และความรุนแรง ยังคงไม่ได้รับการจัดการที่เพียงพอ
จุดอ่อนเหล่านี้ของระบบ ทำให้สังคมสหรัฐฯ รับมือกับเหตุเสียชีวิตจำนวนมหาศาลที่เพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าเช่นโควิด-19 ได้ยากยิ่งขึ้น
บทความระบุว่า การทำความเข้าใจวงจรการจัดการเหตุฉุกเฉิน 4 ขั้นตอน สามารถช่วยวิเคราะห์และชี้นำการรับมือกับโรคโควิด-19 ได้ดีขึ้น ซึ่งประกอบด้วย การบรรเทา การตระเตรียม การรับมือ และการฟื้นฟู
การเตรียมความพร้อมรับมือโควิด-19 ที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการกักตุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เครื่องระบายอากาศ และอุปกรณ์ทดสอบการติดเชื้อ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และทำให้พวกเขาต้องต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด
ที่มา : xinhuathai
- ทั่วโลกเสียชีวิต ‘โควิด-19’ ถึง 2.7 แสนราย ‘บราซิล’ เจอเพิ่ม 600 ศพ มากสุดรองจากสหรัฐ
- ทั่วโลกเสียชีวิต ‘โควิด-19’ เฉียด 2.6 แสน ‘อังกฤษ’ ขึ้นที่ 2 ตายมากสุดในโลก ‘สหรัฐ’ ยอดดับทะลุ 7 หมื่น
- ทั่วโลกติดเชื้อ ‘โควิด-19’ ถึง 3.6 ล้าน ‘สหรัฐ’ ทะลุ 1.2 ล้านคน