ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ยอมรับ กกท.มองถึงความเป็นไปได้ในการกลับมาจัดแข่งขันกีฬาภายในประเทศไทยอีกครั้ง รับหากหากสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลาย เตรียมเดินเครื่องกลับมาเริ่มจัดแข่งขันกีฬากลุ่มความเสี่ยงต่ำ ประเภทบุคคลเป็นลำดับแรก เบื้องต้นเวลานี้มีแมตช์แข่งขัน 21 รายการที่เข้าข่ายจะถูกใช้นำร่องจัดแข่งขัน
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ผ่อนปรนให้กิจกรรมต่างๆ รวมถึงกิจกรรมกีฬา อาทิ การอนุโลมให้เปิดสนามกอล์ฟ, สนามเทนนิส, สนามกีฬากลางแจ้ง หรือกระทั่งสวนสุขภาพ ให้ประชาชนสามารถเข้าใช้บริการออกกำลังกายได้ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีและส่งสัญญาณไปถึงกิจกรรมกีฬาอื่นๆอาจให้เตรียมแผนและมาตรการรอเวลาได้รับการปลดล็อคและผ่อนปรนบ้าง
ผู้ว่าการกกท.เผยต่อว่า หากในรอบ 14 วันที่มีการติดตามประเมินนับตั้งแต่วันที่ได้รับการผ่อนปรน พบว่ากิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงหรือผลกระทบทางด้านลบในการทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็เชื่อว่ากิจกรรมกีฬาชนิดต่างจะได้รับการทยอยปลดล็อคให้กลับมาดำเนินการได้ตามควรเป็นอีกครั้ง
“ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกีฬาที่ปลดล็อคไปเเล้ว หรืออยู่ระหว่างกำลังรอ สิ่งสำคัญคือเรื่องการสร้างมาตรฐานเเเละกำหนดมาตรการในการรักษาสุขภาพให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ หรือกระทั่งนักกีฬา ที่มีคิวจะต้องเข้าเเคมป์เก็บตัวร่วมกันในแเคมป์ ซึ่งจุดนี้ อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการ หรือรูปแบบการฝึกซ้อมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย”
ดร.ก้องศักด ยังเผยถึง การจัดแข่งขันกีฬาต่างๆภายในประเทศด้วยว่า ทางกกท.มีการประชุมหารือกันกับสมาคมกีฬาต่างๆอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตามข้อมูลที่กกท.ได้รวบรวมและจัดเก็บขึ้นมา ในเวลานี้มีรายการเเข่งขันกีฬาต่างๆอยู่ราวๆ 21 รายการกีฬา ที่เราอาจจะใช้เป็นกลุ่มนำร่อง กลับมาจัดการแข่งขัน หากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
“สถานการณ์ในเวลานี้ถือว่าดีขึ้นมากทีเดียว อย่างไรก็ตาม กกท.มีหน้าที่ทำแผนและนำเสนอ ซึ่งการจะได้รับอนุญาตให้จัดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่อำนาจของ ศบค.เป็นหน่วยงานในการตัดสินและพิจารณา ส่วนรายการกีฬาต่างๆที่อาจถูกใช้นำร่องจัดแข่งขันขึ้นในเร็วๆนี้นั้นจะเป็นประเภทกีฬาบุคคล ที่ไม่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการแข่งขัน อาทิ จักรยาน, ยิงธนู, กอล์ฟ, ยิงปืน, เจ็ทสกี”
