เจ้าสัวใหญ่ตระกูลดังอย่างเครือซีพี ตระกูล“เจียรวนนท์” และเจ้าของที่ดินในเมืองรายใหญ่อย่างตระกูล “อรรถกระวีสุนทร” เป็นสองตระกูลเศรษฐีที่มีธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มานับไม่ถ้วนตั้งแต่รุ่นบุกเบิก และล่าสุดเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ทายาทเจ้าสัวรุ่นหลานเจนเนอเรช่นที่ 4 มีแนวคิดและความฝันที่จะดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในแบบคนรุ่นใหม่ จึงได้ออกมาร่วมกันเปิดบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง แยกจากธุรกิจเดิมของครอบครัวชัดเจน
บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (วันพ้อยท์ซิกซ์) คือบริษัทใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท โดยมีนางสาวธัญทิพ เจียรวนนท์ เป็นประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง ร่วมกับนายชวิน อรรถกระวีสุนทร เป็นกรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง โดยมีบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เป็นพันธมิตรและร่วมถือหุ้น 75%
นางสาวธัญทิพ กล่าวว่า บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ฯ ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มพัฒนาโครงการแรก คือ “The Strand Thonglor” (เดอะ สแตรนด์) เป็นการพัฒนาที่ดินขนาด 1 ไร่เศษบริเวณปากซอยทองหล่อ ขึ้นเป็นคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่แบบมิกซ์ยูสด์ บนอาคารสูง 30 ชั้น ซึ่งมีทั้งห้องชุดพักอาศัย จำนวน 198 ยูนิต และพื้นที่รีเทลร้านอาหารและบาร์ รวมทั้งโคเวิร์คกิ้งสเปซ ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่สำนักงานขนาดย่อมได้
โครงการนี้เป็นการซื้อที่ดินแปลงใหม่มาพัฒนา ไม่ได้ใช้ที่ดินดั้งเดิมจากทั้งสองตระกูลมาดำเนินการ เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาใหม่เต็มตัว ไม่ได้ใช้ที่ดินแลนด์แบงก์ของครอบครัว แต่ในอนาคตหากมีพื้นที่แปลงที่เหมาะสมก็อาจนำมาพัฒนาโครงการได้เช่นกัน แต่เบื้องต้นยังไม่ได้คิดเรื่องการพัฒนาที่ดินของครอบครัว
“เราซื้อที่ดินมาพัฒนาใหม่ และวางคอนเซ็ปท์ให้เป็นคอนโดมิเนียม ที่มีความแตกต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นคอนโดหรูในสไตล์ Minimal Luxury คือหรูหราแบบเรียบง่าย” นางสาวธัญทิพ ย้ำ
ด้านนายชวิน กล่าวว่า โครงการนี้มีมูลค่ารวม 4,800 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นได้เปิดแนะนำโครงการผ่านผู้ถือหุ้นและบริษัทตัวแทนขาย เจแอลแอล มียอดขายแล้วประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งทางโครงการจะจัดงานพรีเซลล์ในวันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะทำยอดขายได้ 40% ภายในปีนี้
สำหรับราคาขายเริ่มต้นที่ 3.3 แสนบาท/ตารางเมตร ราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 16.5 ล้านบาท ราคาแพงที่สุดจะอยู่ที่ 3.9 แสนบาท/ตารางเมตร เป็นส่วนเพนท์เฮ้าส์ 184 ตารางเมตร ราคา 70 ล้านบาท มีจำนวน 6 ยูนิต ส่วนด้านการก่อสร้างจะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 4/2561 และมีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2564
การออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “Essentially More” ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงให้กับลูกบ้านอย่างรอบด้านมากที่สุด โดยนอกจากพื้นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีพื้นที่ Micro-Office & Business Lounge พื้นที่ร้านอาหารที่ให้บริการในรูปแบบ All-day dining สปีคอีซี่บาร์ (Speakeasy Bar) และพื้นที่สวนสาธารณะ “The Strand Park” บริเวณด้านหน้าโครงการฯ ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการฯ และเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน
ภายในโครงการยังพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เพลย์ รูม (The Playroom) และ ติวเตอร์ รูม (Tutor room) บริเวณชั้น 6 เดอะ คลับเฮาส์ (The Clubhouse) ชั้น 27 ซึ่งประกอบด้วย The Living Room ส่วนบริการ Fitness และ Meditation Studio สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ระบบน้ำเกลือ ความยาว 25เมตร พร้อมจากุซซี่ สำหรับผู้ใหญ่ และสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก รวมถึงส่วนของ Rooftop terrace และ Putting green ตลอดจน เรสซิเด้นส์ ล็อบบี้ (Residential Lobby)
นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยโครงการฯได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์นำเสนอ “Intelligent Technology” อาทิ “Secured Private Lift Lobby” ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถขึ้นตรงจากพื้นที่ส่วนกลางถึงห้องชุดเสมือนลิฟต์ส่วนตัว ด้วยเทคโนโลยีไมโครชิปเซ็นเซอร์ (Microchip Sensor Technology – RFID) ที่จะส่งผู้อยู่อาศัยไปแต่ละชั้นโดยเฉพาะ
