Politics

รอเลย!! บัญชีทะเบียนเกษตรกรล็อตแรก 8.33 ล้านรายถึงคลังแล้ว

“กระทรวงเกษตรฯ” ส่งข้อมูลทะเบียนเกษตรกรชุดแรก 8.33 ล้านรายถึงกระทรวงการคลังแล้ว คาดจ่ายเงิน 5,000 บาทงวดแรกกลางเดือนนี้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรส่งข้อมูลทะเบียนเกษตรกรถึงผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังแล้ว โดยกลุ่มแรกเป็นเกษตรกรที่ขึ้นและปรับปรุงทะเบียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งมีบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประมาณ 8.33 ล้านราย โดยตรวจสอบอย่างละเอียดไม่ให้ซ้ำซ้อน เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง เมื่อกระทรวงการคลังได้รับทะเบียนเกษตรกรชุดแรกแล้วจะตรวจสอบไม่ให้ซ้ำซ้อนกับผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการเราไม่ทิ้งกัน ผู้มีสิทธิ์สวัสดิการผ่านระบบข้าราชการของกรมบัญชีกลาง ผู้มีสิทธิ์ระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคม และเกณฑ์อื่น ๆ ที่กระทรวงการคลังกำหนด คาดว่าเกษตรกรกลุ่มแรกจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดแรกผ่านบัญชีของ ธ.ก.ส.กลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจ่ายเข้าบัญชี ธ.ก.ส.รายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม รวมได้รับ 15,000 บาทต่อราย

เฉลิมชัย ศรีอ่อน 1 crop
เฉลิมชัย ศรีอ่อน

สำหรับเกษตรกรกลุ่ม 2 ได้แก่ เกษตรกรที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียน ซึ่งสามารถมาขึ้นทะเบียนได้ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ประมาณ 1.67 ล้านราย โดยกระทรวงการคลังแจ้งว่าสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรงวดแรกกลุ่ม 2 ภายในเดือนพฤษภาคมเช่นกัน ดังนั้น เกษตรกรเป้าหมายทั้ง 2 กลุ่มรวม 10 ล้านราย

ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้ขึ้นหรือปรับปรุงทะเบียนให้เร่งติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรประกอบการเกษตร ดังนี้
1. การทำนา/ทำไร่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน 1 ไร่ขึ้นไป
2. การปลูกผัก/การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ/ การเพาะเห็ด/การปลูกพืชอาหารสัตว์อย่างใดอย่างหรือรวมกัน 1 งานขึ้นไป
3. การปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น/การปลูกสวนป่า/ปลูกป่า เศรษฐกิจแบบสวนเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน 1 ไร่ขึ้นไปและมี 50 ต้นขึ้นไป
4. การปลูกไม้ผล/ไม้ยืนต้นแบบสวนผสมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันอย่างน้อย 1 ไร่และมี 50 ต้นขึ้นไป
5. การเลี้ยงแม่โคนม 1 ตัวขึ้นไป
6. การเลี้ยงโค / กระบือ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน 2 ตัวขึ้นไป
7. การเลี้ยงสุกร แพะ หรือแกะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน 5 ตัวขึ้นไป
8. การเลี้ยงสัตว์ปีก 50 ตัวขึ้นไป
9. การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
10. การทำนาเกลือสมุทร 1 ไร่ขึ้นไป
11. การปลูกหม่อน การเลี้ยงไหมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน
12. การเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจและเกษตรอื่นๆ
13. ประกอบการเกษตรอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน

fig 24 04 2020 05 29 42

ส่วนกรมปศุสัตว์รับขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งประกอบการเกษตรดังนี้
1. กรณีเลี้ยงโคเนื้อ โคนม กระบือ สุกร แพะ แกะ และสัตว์ปีก ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์คือ
1.1 การเลี้ยงแม่โคนม 1 ตัวขึ้นไป
1.2 การเลี้ยงโค หรือกระบืออย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน 2 ตัวขึ้นไป
1.3 การเลี้ยงสุกร แพะ หรือแกะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน 5 ตัวขึ้นไป
1.4 การเลี้ยงสัตว์ปีก 50 ตัวขึ้นไป
2. กรณีจำนวนสัตว์ที่เลี้ยงไม่เป็นไปตามข้อ 1. ต้องมีการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นร่วมด้วยไม่น้อยกว่า 1 ชนิด

สำหรับกรมประมงรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งประกอบการเกษตรดังนี้
1. เกษตรกรขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผู้เพาะลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ.1) ที่ทะเบียนเกษตรกรยังมีอายุอยู่
2. เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ทำการประมง (ทบ.3) ที่ทะเบียนเกษตรกรยังมีอายุอยู่
3. เกษตรกรที่ได้รับอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
4. เกษตรกรได้จดแจ้งการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
5. เกษตรกรที่ได้จดแจ้งการประกอบกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล (เกษตรกร ในที่นี้หมายถึง บุคคลธรรมดา)

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรอื่น ๆ ที่มีหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรของหน่วยงานเอง โดยไม่อยู่ภายใต้ระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560 ดังนี้
1. เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
2. เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
3. เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยาสูบแห่งประเทศไทย หากเกษตรกรมีข้อสงสัยและต้องการตรวจสอบสิทธิ์สามารถติดต่อหน่วยงานในพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนไว้ได้ทุกวันในเวลาราชการ โดยไม่เว้นวันหยุด

Avatar photo