นักวิเคราะห์ “ยูบีเอส” วาณิชธนกิจชั้นนำของโลก ระบุ มองเห็นศักยภาพมากขึ้น ที่ราคาทองคำจะสามารถพุ่งขึ้นไปอยู่เหนือเส้น 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ภายในปีนี้
นางโจนิ เทเวส นักวิเคราะห์ชองยูเอส กล่าวว่า ในมุมมองของเธอนั้น ทองคำมีศักยภาพมากขึ้น ที่จะทะยานสูงขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลงช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในระยะใกล้นั้น ยูบีเอสกำหนดเป้าหมายราคาทองไว้ที่ระดับ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำในตลาดโลก จะพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปี 2563
นางเทเวส ยังเห็นว่า การเคลื่อนไหวในราคาทองคำ เป็นผลจากความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อโภคภัณฑ์ชนิดนี้มีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มนักลงทุนประเภทสถาบัน
“ทองคำกลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจในสภาวะเช่นปัจจุบัน ที่มีภาวะไร้เสถียรภาพอย่างหนัก ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าจะเศรษฐกิจจะทรุดตัวลงอย่างหนัก เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำอย่างมาก ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะเก็บเข้าไว้ในพอร์ทลงทุน
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำ ในไตรมาสแรกของปีนี้ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเป็นปัจจัยใหญ่สุดประการเดียวที่ทำให้ความต้องการพุ่งขึ้น
WGC ระบุว่า ความต้องการลงทุนในทองคำทั้งหมดซึ่งรวมถึงทองคำแท่ง เหรียญทองคำ และการลงทุนในกองทุน ETF ทองคำ พุ่งขึ้น 80% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 539.6 เมตริกตันในไตรมาสแรก
ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงการลงทุน 298 เมตริกตันในกองทุน ETF ทองคำ ซึ่งถือครองทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3,185 เมตริกตันในไตรมาสแรก
