COVID-19

ตามคาด! หลังเปิดขายเหล้า-เบียร์ ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มั่วสุมดื่มสุราพุ่ง

ประเดิมหลังเปิดขายเหล้า-เบียร์ ศบค.รายงานฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน คดีมั่วสุมพุ่ง 129 คดี ดื่มสุรามาแรงอันดับ 1 ออกนอกเคหสถาน 666 คดี ย้ำ 14 วันจากนี้มีความหมาย หากยอดผู้ติดเชื้อกลับมาสูง พร้อม “ทบทวนคลายล็อก” กลับสู่มาตรการเข้มงวดเหมือนเดิม

report01 5
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 4 พฤษาคม 2563 กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 18 ราย รวมยอดสะสม 2,987 ราย รักษาตัวในรพ. 193 ราย

กรณีพบผู้ป่วย 18 ราย ที่อำภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นแรงงานต่างด้าว ที่ศูนย์กักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จากก่อนหน้านี้พบ 42 รายแล้ว

report03 8

สำหรับผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่ยังเป็นอายุ 20-29 ปี จำนวน 763 ราย อายุเฉลี่ย 39 ปี ยอดผู้ติดเชื้อรายจังหวัดกรุงเทพเพิ่มเป็น 1,526 ราย ภูเก็ต 220 ราย นนทบุรี 157 ราย และยะลา 118 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อต่อแสนประชากรยังเป็นภูเก็ต 53.22 กรุงเทพ 26.91 และยะลา 22.08

4May increase02

4May increase

ทั้งนี้มีหลายจังหวัดที่สถานการณ์ดีขึ้น ไม่พบผู้ติดเชื้อรอบ 28 วันรวม 34 จังหวัด ที่เพิ่มในวันนี้ คือ สระแก้ว และอุบลราชธานี เท่ากับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรอบ 28 วัน และมี 10 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลยเช่นเดิม

4May จำแนกตามระยะเวลา

ในส่วนของชุดข้อมูลสถานการณ์ติดเชื้อที่จังหวัดยะลานั้น เราพบผู้ติดเชื้อรายแรก กลับจากมาเลเซีย ถือเป็นระลอกแรกในเดือนมีนาคม ต่อมามีผู้ไปสัมผัส กลายเป็นระลอก 2 เป็นกลุ่มก้อนใหญ่เดือนเมษายน จากนั้นตัดสินใจใช้การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก หริอ Active Case Finding ตั้งแต่ 21 เมษายน รวม 126 ราย

ต่อมามีการค้นหาเชิงรุกแบบปูพรม 3,277 ราย ในทุกอำเภอ พบเชื้อ 20 ราย อยู่ในอำเภอยะลา 3 ราย ยะหา 3 ราย และบันนังสตา 14 ราย สัมผัส 671 ราย โดยมีทีมออกไปซักประวัติ และพูดคุยคัดกรอง 222 ราย ต้องส่งตรวจหาเชื้อ และพบอีก 6 ราย เป็นที่มาของการตรวจเพิ่ม ของกลุ่มใหญ่ 311 ราย และมีข่าวตรวจพบเชื้อ 40 รายตามข่าว

แต่เนื่องจากห้องปฏิบัติการที่ยะลา เพิ่งตั้งมาได้ 2 สัปดาห์ ต้องมีพี่เลี้ยง โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ สงขลา ที่ต้องมาควบคุมกำกับ และตั้งมาตรฐาน แต่ข้อมูลออกไปทางสื่อเสียก่อน ที่จะมีการตรวจซ้ำจากห้องปฏิบัติการของกรมวิทย์ ประจำสงขลา ซึ่งผลตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 40 ราย

อย่างไรก็ตามทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง  อธิบดีกรมควบคุมโรค และอธิบดีกรมวิทย์ เห็นว่าต้องส่งตรวจซ้ำ ที่ห้องปฏิบัติการแห่งที่ 3 เพื่อยืนยันผล เป็นห้องปฏิ้บัติการที่ส่วนกลางของกรมวิทย์ ซึ่งเป็นจุดอ้างอิงของประเทศ จะต้องรอผลต่อไป สำหรับกรณีที่ผลตรวจไม่ตรงกัน อาจมีปัญหาหลายจุด ตั้งแต่เก็บตัวอย่าง การขนส่ง ทั้งนี้ผลออกมาอย่างไร จะไม่มีการปกปิด ต้องการให้เกิดการรับรู้ข้อมูลให้มากที่สุด ทุกคนจะได้ช่วยกัน

” ที่ยะลาเราถือว่ายิ่งเจอยิ่งดี แสดงถึงการค้นหาผู้ป่วย เป็นสมรรถนะของคนในพื้นที่ ซึ่งในภาพรวมเราตรวจเชื้อจำนวนไม่น้อยกว่า 2 แสนราย เพราะมีการตรวจเชิงรุกด้วย แต่ระยะหลังตรวจเยอะ แต่เจอน้อย เพราะมาตรการป้องกันควบคุมโรค ทำได้ดีระดับหนึ่ง”

สำหรับการประเมินผ่อนคลายมาตรการ นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า เราเพิ่งผ่านระยะผ่อนปรน ขอให้ปรับพฤติกรรม เพื่อความปลอดภัย โดยยึดหลัก 5 ข้อ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และอย่าให้มีการแออัด เราต้องร่วมมือกัน 100% ให้ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยติดต่อกันยาวนานอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ก็จะมั่นใจว่าคนในประเทศไม่ติดเชื้อ

” ใน 14 หวังที่ผ่อนปรน หากมีตัวเลขติดเชื้อน้อย ก็จะเห็น 14 วันที่จะเข้าสู่การ ผ่อนปรนระยะ 1 ต่อไป ทำให้เรามีพื้นที่ไปได้มากกว่านี้ แต่ตรงข้ามหาก 14 วันนี้ ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น มาตรการก็ต้องถูกทบทวน หยุด หรือกลับไปที่เดิม ที่มีข้อจำกัดมากมาย ”

ขอย้ำว่า ที่คนไทยร่วมมือกันที่ผ่านมาล้วนมีความหมาย และ 14 วัน ต่อไปนี้ก็มีความหมย หลายคนก็อยากทำมาหากิน ตอนนี้ผู้ประกอบการต้องทำมากกว่าผู้ใช้บริการ โดยมีภาครัฐไปกำกับ และขอให้พี่น้อง ชุนชนเตือนและแนะนำกันเอง

report02 0

สำหรับกรณีการคลายมาตรการ โดยเปิดให้ขายสุรา และเบียร์เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นวันแรก พบว่ามีการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินมากขึ้น มีคดีมั่วสุม 129 คดี เป็นการมั่วสุมเพื่อดื่มสุราอันดับ 1 ส่วนการฝ่าฝืนเวลาเคอร์ฟิว มีคดีออกนอกเคหสถาน 666 คดี ตักเตือน 24 ราย นพ.ทวีศิลป์ ย้ำว่าภาพวันนี้จะสะท้อนผลในอีก 14 วันข้างหน้า ว่าสถานการณ์ติดเชื้อจะเป็นอย่างไร ? 

4May รายงานการดำเนินคดี เหตุ

Avatar photo