Sport

‘ส.จักรยาน’ ปรับรูปแบบแข่ง ‘ถนน-เสือภูเขา’ ชิงแชมป์ปทท. ตามสถานการณ์ ‘โควิด’

สมาคมกีฬาจักรยานฯ พร้อมปรับรูปแบบการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยทุกประเภท หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย “พลเอกเดชา” เผยเตรียมวางแผนรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด รวมไปถึงศึกสองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” มีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างใกล้ชิด ส่วนโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” สัปดาห์ที่ 3 สุดคึกคัก เปิดโอกาสให้แฟนจักรยานทางบ้านร่วมปั่นกับนักกีฬาทีมชาติ มีผู้ชมผ่านการ live บนเฟซบุ๊กของ “ไทยพีบีเอส” ยอดถล่มทลายเกือบ 4 แสนวิว

88076923

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงได้ปรับเปลี่ยนการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และ การแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 จากทั้งหมด 5 สนาม ให้เหลือ 4 สนาม โดยตัดสนามที่ จ.ตราด ออกไป เพื่อเป็นการลดภาระของจังหวัด เนื่องจากในปีนี้ จ.ตราด จะต้องเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 “ช้างขาวเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “ตราดเกมส์”

พลเอกเดชา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะลดการแข่งขันเหลือ 4 สนามแล้ว ก็ยังต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรงเชื้อไวรัส-19 อย่างใกล้ชิด หากผ่านเดือนพฤษภาคมไปแล้ว การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลายลง หรือรัฐบาลประกาศขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก สมาคมฯ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมใหม่ หรือต้องเปลี่ยนแปลงการแข่งขันบางประเภท เช่น การแข่งขันจักรยานประเภทถนน โร้ดเรซ อาจจะยกเลิก แล้วให้แข่งขันไทม์ไทรอัลแทน ซึ่งรูปแบบการแข่งขันเป็นการปล่อยตัวนักกีฬาทีละคน ผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ แต่ทั้งนี้นักกีฬาที่แข่งขันทั้ง 2 ประเภทก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ก่อน ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็จะจัดแข่งขันตามรูปแบบเดิม

ส่วนประเภทเสือภูเขา ครอสคันทรี่ อาจจะปรับเป็นการแข่งขันอิลิมิเนเตอร์ ซึ่งปล่อยตัวทีละ 4 คน คัดเอา 2 คนผ่านเข้ารอบต่อไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยใช้เส้นทางแข่งขันที่ไม่ยาวมากนัก ขณะที่ประเภทดาวน์ฮิล คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการปล่อยตัวทีละคนอยู่แล้ว แต่ละคนก็ห่างกัน 1 นาที

ในขณะที่การแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ก็เช่นกัน ไม่มีปัญหาเรื่องความใกล้ชิดของนักกีฬา เนื่องจากเวลาปล่อยตัวออกจากเกตสตาร์ท นักกีฬาจะอยู่ช่องของแต่ละคน มีระยะห่างชัดเจน และใช้เวลาแข่งขันในระยะสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้วางมาตรการเข้มงวดเรื่องของกองเชียร์หรือผู้ปกครองที่ติดตามนักกีฬาเข้ามาในสนาม ต้องให้รักษายะยะห่างกัน มีจุดคัดกรองก่อนเข้าสนาม มีการวัดไข้ แจกหน้ากากอนามัย และแจกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และห้ามเข้าไปใกล้พื้นที่ในส่วนที่นักกีฬาทำการแข่งขัน

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ รายการ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2020” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ซึ่งสมาคมฯ ได้กำหนดเลื่อนไปแข่งขันระหว่างวันที่ 1-10 สิงหาคม เส้นทางจาก จ.สมุทรสงคราม-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี ก็จะมีการวางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัส-19 อย่างเข้มงวด โดยในพิธีเปิดการแข่งขันและการมอบรางวัลประจำวัน จะจำกัดผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนไม่เกิน 20 คน ลดขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ ให้กระชับ รวมทั้งวางแผนการคัดกรองอย่างละเอียดทุกจุด

“สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างใกล้ชิด โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ส่งคณะทำงานมาวางแผนร่วมกับ ฝ่ายแพทย์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ นำโดย นพ.เอกลาภ ทองบริสุทธิ์ อุปนายกฝ่ายแพทย์ อย่างไรก็ตาม หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กินเวลาออกไปนานหลายเดือน สมาคมฯ ก็ได้วางแผนหาทางออกเตรียมการไว้แล้ว ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว

“ในสถานการณ์ที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จัดทำโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานออนไลน์ หรือ E-Cycling ผ่านแอปพลิเคชั่น “Zwift” ทุกวันอาทิตย์ โดยมีนักกีฬาจักรยานทีมชาติทั้งชายและหญิงมาแข่งขันกัน มีการถ่ายทอดสดทางไทยพีบีเอส เวลา 14.00-16.00 รวมทั้งการ Live บนเฟซบุ๊กแฟนเพจของไทยพีบีเอส และเฟซบุ๊กของสมาคมกีฬาจักรยานฯ Thaicycling Association ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาแล้ว 2 ครั้ง ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับจากแฟน ๆ จักรยานทั่วประเทศ มียอดผู้เข้าชมบนเฟซบุ๊กของไทยพีบีเอสแต่ละครั้งมากกว่า 3 แสนวิว โดยการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม มียอดผู้ชมรวมแล้วเกือบ 4 แสนวิว นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก”

Avatar photo