ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (1 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นร่วงลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขู่ขึ้นภาษีนำเข้ารอบใหม่ต่อจีน จากความไม่พอใจเกี่ยวกับวิกฤติไวรัสโควิด-19 ขณะที่ แอปเปิล และอเมซอน เป็น 2 บริษัทล่าสุด ที่ออกมาเตือนถึงการดำเนินงานที่ซบเซาในอนาคต
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 23,855.41 จุด ร่วงลง 490.31 จุด หรือ 2.01% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,846.26 จุด ลดลง 66.17 จุด หรือ 2.27% และดัชนีแนสแด็กที่ 8,671.78 จุด ปรับลงมา 217.77 จุด หรือ 2.45%
ตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากขึ้น หลังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ อาจพิจารณาเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เนื่องจากไม่พอใจต่อวิธีการที่จีน รับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งพบที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเป็นที่แรก ทำให้เกิดความกังวลว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ จะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ยุติสงครามการค้ากันไปได้ไม่นานนัก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หลังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง อเมซอน และ แอปเปิ้ล ออกมาเตือนถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
อเมซอน ระบุว่า ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด-19 เช่น การตรวจโรคให้กับพนักงาน ทำให้บริษัทมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ด้านแอปเปิ้ลปฏิเสธที่จะให้แนวโน้มการดำเนินธุรกิจ และผลประกอบการสำหรับไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่
