ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (30 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง หลังตัวเลขว่างงานพุ่งสูงเกินคาด แต่ยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของเฟซบุ๊ก และเทสลา ช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 24,389.97 จุด ร่วงลง 243.89 จุด หรือ 0.99% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,917.61 จุด ลดลง 21.90 จุด หรือ 0.75% และดัชนีแนสแด็กที่ 8,900.71 จุด ลบ 14.00 จุด หรือ 0.16%
วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จำนวน 3.84 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5 ล้านราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 30.3 ล้านรายภายในเวลา 6 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนยังผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในการประชุมวันนี้ เพียงแต่ระบุว่าอีซีบีจะเพิ่มวงเงินคิวอีหากมีความจำเป็น
ราคาหุ้นเทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถไฟฟ้าชั้นนำ ทะยานขึ้น 5.5% หลังจากที่บริษัทรายงานผลกำไร เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน ในช่วงเวลาที่ค่ายรถยนต์รายอื่นๆ ได้รับผลกระทบจากความต้องการของผู้บริโภคที่ซบเซาลง และโรงงานต้องปิดสายการผลิตชั่วคราว
ส่วนราคาหุ้นเฟซบุ๊ก อิงค์ พุ่งขึ้นมา 5.9% หลังจากที่ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้ รายงานผลประกอบการรายไตรมาสดีกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
