ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (29 เม.ย.) พุ่งสูงขึ้น แรงหนุนจากข่าวดีเรื่องยาต่อต้านไวรัส “remdesivir” ของบริษัท “Gilead Sciences” ทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 24,626.13 จุด ทะยานขึ้น 524.58 จุด หรือ 2.18% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,934.98 จุด บวก 71.59 จุด หรือ 2.50% และดัชนีแนสแด็ก 8,873.85 พุ่งขึ้น 266.12 จุด หรือ 3.09%
Gilead Sciences แถลงนี้ว่า ทางบริษัทได้รับข้อมูลที่เป็นบวกในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาต่อต้ายไวรัสของบริษัท ในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
บริษัทเวชภัณฑ์รายนี้ ระบุว่า ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น โดยผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีอาการดีขึ้น หลังได้รับยาตัวนี้
ตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาหุ้น “อัลฟาเบท” บริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้นถึง 9.1% หลังรายงานตัวเลขรายได้ที่ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ข่าวดีที่เกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนมองข้ามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ โดยกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของปีนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 4.8% ทรุดหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 3.5% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพี ติดลบ นับตั้งแต่ที่มีการรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัว 1.1% ในไตรมาส 1/2557 และเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจหดตัว 8.4% ในไตรมาส 4/2551 ซึ่งขณะนั้นสหรัฐกำลังเผชิญวิกฤติการเงิน
นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% หลังประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
มาตรการดังกล่าวรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด ซึ่งถือเป็นการดำเนินการแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟดเคยดำเนินการมา
