เกาหลีเหนือไม่เคยประกาศมาก่อนว่า ใครจะเข้ามาทำหน้าที่แทน “คิม จอง อึน” ประธานประเทศ ในกรณีที่เขาเกิดไร้ความสามารถขึ้นมา และเนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับลูกๆ ของผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ยังเป็นเด็กอยู่ ทำให้บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า น้องสาว และเหล่าผู้ภักดีกับเขา อาจจัดตั้งผู้สำเร็จราชการขึ้นมา จนกว่าผู้สืบทอดอำนาจจะโตพอ ที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศได้
บรรดาเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ และจีน อาจแสดงท่าทีสงสัยออกมาอย่างชัดเจน ถึงรายงานข่าวหลายกระแสที่ว่า คิม จอง อึน กำลังป่วยหนัก หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดหัวใจ โดยข่าวลือนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาไม่ได้เข้าร่วมในงานเฉลิมฉลองสำคัญของประเทศ เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา กลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของเขา
แม้สถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวจะยังไม่ชัดเจน แต่รายงานข่าวต่างๆ ที่ออกมา ก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ใครจะขึ้นมาแทนที่ หาคิม จอง อึน ที่คาดว่าจะมีอายุ 36 ปี และเป็นผู้นำรุ่นที่ 3 ของเกาหลีเหนือ ป่วยหนัก หรือ เสียชีวิต โดยคิม จอง อึน ก้าวขึ้นมาเป็นประธานประเทศเกาหลีเหนือ หลังจากที่ คิม จอง อิล บิดาของเขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย เมื่อปี 2554
ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งระดับสูงในเกาหลีเหนือแต่ละครั้ง ล้วนแต่ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดภาวะสุญญากาศด้านผู้นำ หรือการล่มสลายของตระกูลคิม ที่ปกครองเกาหลีเหนือ มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศในปี 2491
จนถึงขณะนี้ สมาชิกตระกูลคิม 3 รุ่นมาแล้ว ที่โค่นล้มความคาดหวังดังกล่าว และใช้กฎเหล็กในการปกครองประเทศมาโดยตลอด แต่ภายใต้การปกครองของคิม จอง อึน นี้ เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธเพิ่มขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดความกังวลถึงคนที่จะขึ้นมาควบคุมอาวุธเหล่านี้ต่อไป
บุคคลต่อไปนี้ ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มแกนนำเกาหลีเหนือ และพวกเขาอาจมีบทบาทอย่างมากหากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นมา
คิม โย จอง
น้องสาวของคิม จอง อึน ที่มักติดตามพี่ชายไปไหนมาไหนเป็นประจำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยตำแหน่งอย่างเป็นทางการของเธอคือ รองผู้อำนวยการคณะกรรมการกลาง หน่วยงานทรงอำนาจ ของพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคที่ปกครองเกาหลีเหนือ แต่เธอยังมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ของพี่ชายเธอด้วย ซึ่งเป็นตำแหน่งอย่างไม่เป็นทางการ
ในเดือนนี้ คิม โย จอง ยังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกหมุนเวียนของคณะกรรมการกลางโปลิตบูโรด้วย ซึ่งถือเป็นการก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ในการที่จะไต่ระดับขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ
สถานะดังกล่าว ทำให้คิม โย จอง ที่เชื่อกันว่ามีอายุ 31 ปี กุมอำนาจอย่างมั่นคงในส่วนหลักของพรรค และทำให้เธอเป็นแหล่งอำนาจหลัก ที่จะอยู่เบื้องหลังผู้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้นำประเทศ
ผู้อาวุโสในพรรค
โช ยอง แฮ ก้าวขึ้นมาเป็นประมุขแห่งรัฐ ของเกาหลีเหนือ เมื่อปีที่แล้ว ในฐานะประธานสภาบริหารสมัชชชาประชาชนสูงสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายการเมืองผู้ทรงอิทธิพล ของกองทัพ ภายใต้การปกครองของผู้นำคิม
นักวิเคราะห์มองว่า โช และปัก ปอง จู เพื่อนสมาชิกโปลิตบูโร อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งรัฐ ผู้รับผิดชอบในการผลักดันให้เกาหลีเหนือก้าวเข้าสู่ระบบตลาดเสรีมากขึ้น เพื่อฟื้่นเศรษฐกิจของประเทศ มีแนวโน้มที่จะได้เป็นแกนนำ หากมีการจัดตั้งคณะผู้สำเร็จราชการขึ้นมาจริง
นอกจากนี้ ยังมี คิม ยอง โชล รองประธานบริหารพรรคแรงงาน อดีตทูตนิวเคลียร์ ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลคิม และรี ซอน กวอน รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่อาจจะก้าวเข้ามารับผิดชอบในประเด็นทางการทูตต่างๆ รวมถึง การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐ เนื่องจากทั้ง 2 คน ต่างรับหน้าที่สำคัญ เมื่อครั้งที่คิม จอง อึน จัดประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
พี่ชาย
คิม จอง โชล เป็นพี่ชายของผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ไมได้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มแกนนำประเทศ โดยเลือกที่จะใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่กับการเล่นดนตรี โดยเชื่อกันว่า เขาไม่สนใจที่จะใช้ชีวิตท่ามกลางการจับจ้องในที่สาธารณะ และไม่มีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศได้ แม้ว่านักวิเคราะห์บางราย จะชี้ว่า เขาอาจจะยอมออกสู่สาธารณะมากขึ้น ถ้าจำเป็นต้องรวมอยู่ในคณะสำเร็จราชการ เนื่องจากทั้ง 2 พี่น้องยังมีสายสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีระหว่างกัน
