สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลกระทบรุนแรงทั่วโลกในทุกภาคส่วน ซึ่งส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ และมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมากทั้งภาคแรงงานและภาคธุรกิจ ทำให้รัฐบาลต้องมีมาตรการออกมาเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบตรงนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการทั้งหลายกำลังได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น SMEs หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงผลกระทบต่อการจ้างงานของในตลาดแรงงาน
กรมสรรพากรออกมาตรการเยียวยาทางด้านภาษีมาทั้งหมด 6 มาตรการด้วยกัน ดังนี้
ลดอัตราภาษี หัก ณ ที่จ่าย
โดยจะลดจาก 3% เหลือ 1.5% วิธีการนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการทางด้านภาษี ที่ออกมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น การเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการและบุคคลธรรมดา
- บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (ยกเว้นมูลนิธิหรือสมาคม) โดยเงินที่จะได้รับสิทธิ ได้แก่ ค่าจ้างทำของ ค่าบริการ ค่านายหน้า ค่าวิชาชีพอิสระ
- บุคคลธรรมดา โดยเงินที่จะได้รับสิทธิ ได้แก่ ค่าจ้างทำของ ค่าบริการ และค่าวิชาชีพอิสระ
กรอบระยะเวลา
- อัตราภาษี 1.5% ตั้งแต่เดือนเมษายน – เดือนกันยายน 2563 สามารถจ่ายด้วยวิธีการใดก็ได้
- อัตราภาษี 2% ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – เดือนธันวาคม 2564 สามารถจ่ายผ่าน e-Withholding Tax เท่านั้น
ลดภาระดอกเบี้ยจ่าย SMEs
มาตรการภาษีเพื่อลดดอกเบี้ยจ่ายให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เขาร่วมโครงการสินเชื่อพิเศษซอฟท์โลน และผู้ประกอบการที่ทำบัญชีเดียว ให้สามารถนำภาระดอกเบี้ยเงินกู้มาคำนวณเป็นรายจ่ายหักลดหย่อนภาษีได้ โดย SMEs ที่เข้าร่วมมาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของรัฐบาล หักรายจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม 1.5 เท่า
บริษัทที่เข้าเกณฑ์มีคุณสมบัติดังนี้
- มีรายได้ครบ 12 เดือน (รายได้ไม่เกิน 500 ล้าน/ปี)
- จำนวนลูกจ้างไม่เกิน 200 คน
- จัดทำบัญชีเดียว
- มีรอบบัญชีสิ้นสุดก่อนหรือในวันที่ 30 กันยายน 2562
กรอบระยะเวลา : สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตั้งแต่ เดือนเมษายน – เดือนธันวาคม 2563
สนับสนุน SMEs จ้างงานต่อเนื่อง
มาตรการส่งเสริมการจ้างงาน ให้ผู้ประกอบการ SMEs นำรายจ่ายค่าจ้างลูกจ้าง มาหักลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า เพื่อดูแลพนักงานลูกจ้าง
บริษัทที่เข้าเกณฑ์มีคุณสมบัติดังนี้
- มีรายได้ครบ 12 เดือน ไม่เกิน 500 ล้าน
- จำนวนลูกจ้างไม่เกิน 200 คน
- มีรอบบัญชีสิ้นสุดก่อนหรือในวันที่ 30 กันยายน 2562
- คงการจ้างงานของลูกจ้างที่ประกันตนและมีค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน ต่อเดือน
- จำนวนลูกจ้าต้องไม่น้อยกว่าจำนวนลูกจ้าง ณ วันสุดท้ายของเดือน ธันวาคม 2562
กรอบระยะเวลา : สำหรับรายจ่ายค่าจ้าง ตั้งแต่เดือนเมษายน – เดือนกรกฎาคม 2563
เพิ่มสภาพคล่อง ให้กับผู้ส่งออกที่ดี
ตามประกาศของ ครม. กระทรวงการคลังจะเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ส่งออกที่ดี (ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพการ) ให้เร็วขึ้น โดย การคืน VAT ให้เร็วขึ้นภายใน 15 วัน สำหรับช่องทางและระยะเวลาในการยื่นของบริษัท หรือ บริษัทมหาชน สามารถทำได้โดย 2 วิธีดังนี้
- ยื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต ภายใน 15 วัน จากปกติ 30 วัน
- ยื่นผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ภายใน 45 วัน จากปกติ 60 วัน
เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และตลาดทุน
มาตรการสร้างความเชื่อมั่นช่วยเหลือตลาดทุน โดยการ ขยายวงเงินการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) วงเงินพิเศษ โดยให้มีการลงทุนในกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีเพิ่มได้ถึง 2 แสนบาท
กองทุนที่สามารถลดหย่อนภาษีได้นั้นมีเกณฑ์ดังนี้
- ต้องเป็นกองทุน SSF ที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
- ต้องถือในหน่วยลงทุนดังกล่าวไม่น้อยกว่า 10 ปี
- ลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท แยกจากวงเงิน SSF
- ไม่อยู่ใต้เพดานเงินสะสมเพื่อการเกษียณอายุ 5 แสนบาท
กรอบระยะเวลาของการลงทุน : สามารถทำได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563
สนับสนุนให้บริจาคเงิน เพื่อลดหย่อนภาษี
นอกเหนือจาก 5 มาตรการที่กล่าวมาข้างต้น ตามที่ ครม.ได้มีการประชุมออกมาตรการเยียวยาชุดแรกแล้ว ประชาชนยังสามารถร่วมบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา COVID-19 ซึ่งการบริจาคตรงนี้จะสามารถลดหย่อนภาษีได้ หักรายจ่ายได้ และยกเว้น VAT ได้
- สำหรับบุคคลธรรมดา เมื่อบริจาคเงิน สามารถหักลดหย่อนได้ ไม่เกินร้อยละของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย
- สำหรับบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เมื่อบริจาคเงินรือทรัพย์สิน สามารถหักรายจ่ายได้ ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ
- สำหรับผู้ประกอบการ VAT เมื่อบริจาคทรัพย์สิน สามารถยกเว้น VAT ได้
สามารถบริจาคได้โดยผ่าน e-Donation (ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์) เข้าบัญชีสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เลขที่ 067-0-13829-0
ข้อมูลจาก Facebook กรมสรรพากร
- เช็คด่วน! สรรพากรขยายเวลายื่นแบบฯ ให้ผู้ประกอบการทั่วไปสู้ COVID19
- ‘ถูกเลิกจ้าง-ตกงาน’ จากสถานการณ์โควิด-19 ‘รัฐ-ประกันสังคม’ ช่วยเหลืออย่างไร?
- จำเป็นต้องรู้!! ‘ถูกเลิกจ้างกระทันหัน’ ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ค่าชดเชยที่ควรได้รับคือ??