“ศักดิ์สยาม” เดินหน้านโยบายจำกัดเวลารถบรรทุก ยันใช้โมเดลมหานครขนาดใหญ่ระดับโลก พร้อมสั่ง“ทางหลวงฯ” เร่งเครื่องจุดจอดรถบรรทุก-ถกเอกชนร่วม PPP คาดได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการปรับเวลาอนุญาตให้รถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ได้ตั้งแต่เวลา 24.00-04.00 น. ว่า เรื่องดังกล่าาวเป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคม เพื่อแก้ปัญหาการจราจรให้ประชาชนในเขต กทม.-ปริมณฑล โดยใช้ต้นแบบจากมหานครใหญ่ อาทิ ปักกิ่ง โตเกียว มาประยุกต์ใช้ ซึ่งดำเนินการสำเร็จมาแล้ว
สำหรับจำนวนรถบรรทุกทั้งหมด 362,398 คัน จากจำนวนรถบรรทุกที่จดทะเบียน 396,296 คัน ในส่วนความถี่ของการวิ่งของรถบรรทุกในพื้นที่ควบคุม พบว่ารถทั้งหมดไม่ได้เข้าพื้นที่กทม. ทุกวัน รถบรรทุกที่วิ่งในเวลา 04.00-24.00 น. ส่วนใหญ่เข้ามากรุงเทพ เพียง 1-10 วัน ใน 1 เดือน และมีรถบรรทุกส่วนน้อยที่มีการขับขี่ในพื้นที่ควบคุมมากกว่า 20 คัน
“จากการประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. และห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้าเขตเมืองในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อสกัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในระหว่างนั้นกระทรวงคมนาคมได้เก็บข้อมูล พบว่าช่วงการประกาศเคอร์ฟิว ผู้ประกอบการประกอบธุรกิจต่างๆ ที่ต้องใช้รถบรรทุก แจ้งว่าส่งผลให้มีต้นทุนการดำเนินการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นอกจากนี้ ได้ให้กรมทางหลวง (ทล.) พิจารณาก่อสร้างจุดจอดรถบรรทุก 7 แห่ง ในพื้นที่ของกรมฯ โดยให้หารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อบูรณาการร่วมลงทุน (PPP)ในการ ก่อสร้างจุดจอดรถบรรทุกเพิ่มในบริเวณอื่นๆด้วย โดยให้พิจารณาการก่อสร้างจุดจอดฯ ให้สอดคล้องกับปริมาณรถบรรทุกที่จะเข้ามาใช้ คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 เดือนก่อนได้ข้อสรุป
จากการประชุมของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างความเข้าใจและกำหนดแนวทางของภาคเอกชน โดยให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ใช้เป็นแนวทางสร้างความเข้าใจร่วมกับภาคเอกชน
ทั้งงนี้เอกชนได้เสนอความคิด 4 ประเด็น 1.ผู้ขนส่งคอนกรีตกังวลเรื่องผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างขนาดเล็ก และโครงการก่อสร้างบ้านพักอาศัยของประชาชน ที่จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดเวลาวิ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2.โรงงานประกอบรถยนต์ อีซูซ และ ฮีโน่ มีโรงงานตั้งอยู่บริเวณถนนปูเจ้าสมิงพราย ตั้งอยู่ภายในพื้นที่วงแหวนรอบรอบนอก (กาญจนาภิเษก) ซึ่งภาคเอกชนแจ้งว่า จะได้รับผลกระทบอย่างมาก
3.สภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กังวลต่อผลกระทบเรื่องความแออัดที่จะเกิดขึ้นบริเวณท่าเรือกรุงเทพ เนื่องจากการติดเวลาห้ามวิ่งรถบรรทุก และอยากให้ภาครัฐเร่งรัดการหาผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบังลาดกระบัง และ 4.สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย ไม่เห็นด้วยกับมาตรการ พร้อมเสนอขอยกเลิกมาตรการ
