Business

โควิด-19 ทำพิษ! ปตท.ทบทวน แผนลงทุนโครงการ มูลค่า 4 แสนล้าน

โควิด-19 ทำพิษ! ปตท.ทบทวนแผนลงทุน มูลค่าโครงการ 4- 5 แสนล้าน พร้อมเร่งตัดค่าใช้จ่ายหลักพันล้าน ปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ สหรัฐ ของ จีซี กว่า 2 แสนล้าน เลื่อนด้วย เหตุจีดีพีสหรัฐ ติดลบ รวมถึงโครงการ MARS ของไออาร์พีซี กว่า 4 หมื่นล้าน ดึงแผนลงทุนในอนาคต เตรียมหารือบอร์ดปตท.30 เม.ย. ย้ำสถานการณ์โควิด “เก็บเงินสด” ดีที่สุด รักษาสภาพคล่องไว้ก่อน ด้านโรงกลั่นน้ำมัน ลดกำลังการกลั่น 15-20% รับมือสถานการณ์น้ำมันล้นตลาด

NG 5354
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ปตท.ต้องทบทวนแผนการลงทุน

สำหรับโครงการใหญ่ที่ต้องทบทวนได้แก่ โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐ ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐ ถดถอยมาก จีดีพีติดลบ

โครงการดังกล่าวจีซี จะทำให้เป็น second Home Base เพื่อใช้สหรัฐ เป็นฐานในการผลิต และทำตลาด มูลค่าโครงการกว่า 2 แสนล้านบาท กำลังผลิตเอทิลีน 1 ล้านตันต่อปี และผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง HDPE ขนาด 7 แสนตันต่อปี, MEG และ EO ประมาณ 6 แสนตันต่อปี เดิมจะประกาศความชัดเจนไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนจะเลื่อนไปอย่างไรนั้น จะต้องรอให้ จีซี นำเสนอแผนการทบทวนเข้าคณะกรรมการปตท.ต่อไป

รวมถึงชะลอโครงการผลิตอะโรเมติกส์ (MARS : Maximum Aromatics Project) ของ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มูลค่าการลงทุน 40,000 ล้านบาท กำลังการผลิตพาราไซลีน 1-1.3 ล้านตันต่อปี ซึ่งมีเป้าหมายที่จะผลิตเพื่อส่งออกไปจีน แต่เนื่องจากรัฐบาลจีน เปลี่ยนนโยบาย ส่งเสริมเอกชนให้ตั้งโรงงานผลิตในประเทศ ป้อนตลาดจีนเอง ลดการพึ่งพาการนำเข้า ดังนั้นการผลิตของโครงการ MARS จึงต้องทบทวน ซึ่งการลงทุนของจีนแต่ละโครงการ มีกำลังการผลิต ขนาดใหญ่มาก ประมาณ 2-3 ล้านตันต่อปี

นอกจากนี้จะมีการทบทวนแผนการลงทุนของปตท. ในส่วนของงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปี (2563-2567) มูลค่าที่ตั้งไว้ 203,583 ล้านบาท เป้าหมายเพื่อเก็บเงินสด รักษาสภาพคล่อง เนื่องจากผลตอบแทนแต่ละโครงการยังไม่นิ่งตามสถานการณ์ โดยจะนำรายละเอียด มาหารือในคณะกรรมการปตท.วันที่ 30 เมษายนนี้ ซึ่งปกติปตท.จะทบทวนทุก 6 เดือน แต่สถานการณ์อย่างนี้ ต้องนำมาหารือกันทุกเดือน

“สถานการณ์โควิด-19 ทำให้โครงการใหญ่ในอนาคต ต้องทบทวน เพราะหากนำเงินไปลงทุนแล้ว เราไม่มีเงินใช้จ่ายในปัจจุบัน ก็เดินหน้าไปไม่ได้ เรียกว่าเราต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน “

149814 0

ขณะเดียวกันเราก็กำลังหารือเรื่องตัดค่าใช้จ่าย ที่ไม่จำเป็นลง วงเงินประมาณหลักพันล้านบาท ซึ่งปีที่แล้วจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปตท.ตัดค่าใช้จ่ายลงไปได้กว่า 3,000 ล้านบาท

โครงการที่เรากำลังทำเพื่อรองรับสถานการณ์ คือ การลดกำลังผลิตของโรงกลั่นน้ำมันลง 15-20% ทั้งโรงกลั่นของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โรงกลั่นของบริษัทไออาร์พีซี และโรงกลั่นของจีซี ประมาณ 2-3 เดือน แต่เรื่องนี้ก็ต้องติดตามสถานการณ์ด้วย เพราะหากสถานการณ์กลับมาปกติ ความต้องการใช้เพิ่ม เราก็ต้องเพิ่มกำลังการกลั่นให้ทันด้วย

สำหรับสาเหตุที่ต้องลดกำลังการกลั่น เพราะปัจจุุบันน้ำมันล้นตลาด จากความต้องการใช้ที่ลดลง หลังเกิดพิษโควิด-19 และการล็อคดาวน์ของหลายๆประเทศทั่วโลก

ส่วนโครงการที่ต้องเดินหน้าต่อ เป็นโครงการด้านสาธาณูปโภคต่างๆ อาทิ โครงการขยายท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 โครงการมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว รวมถึงโครงการที่เดินหน้าก่อสร้างไปแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อเนื่อง เช่น โครงการพลังงานสะอาด ( Clean Fuel Project) ของบริษัทไทยออล์ มูลค่าโครงการ 153,600 ล้านบาท หรือ 4,800 ล้านดอลลาร์ และโครงการที่เป็นธุรกิจใหม่ๆ เช่น ด้านสุขภาพ ที่กำลังหารือกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นต้น

Avatar photo