“เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” เจ้าของร้านอาหาร 10 แบรนด์ ได้แก่ เอ็มเค สุกี้, เอ็มเคไลฟ์, เอ็มเคโกลด์, ยาโยอิ, บิซซี่ บ็อกซ์, ฮากาตะ, มิยาซากิ, เลอ สยาม, ณ สยาม และเลอ เพอทิท เปิดครัวโชว์มาตรฐานการผลิตที่สะอาดปลอดภัย ผ่าน “ครัวกลาง” สร้างความเชื่อมั่นลูกค้าในวิกฤติโควิด-19 ที่ความสะอาด และสุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญ
“MK Central Kitchen” หรือ ครัวกลางเอ็มเค คือ ศูนย์กลางการผลิตอาหารแห่งล่าสุดของเครือบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์กรุ๊ป จำกัด มหาชน และถือเป็นโรงผลิตที่ 5 นับตั้งแต่ก่อตั้งมา โดยเริ่มเปิดใช้งานด้วยมาตรฐานที่ได้รับการออกแบบเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารโดยเฉพาะ และได้รับมาตรฐานระดับนานาชาติ GMP HACCP ISO9001:2015 มาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการผลิตอาหารสำหรับทุกแบรนด์ในเครือที่มีรวมกันมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศตลอดทั้ง 365 วัน มีการล้างผักปีละกว่า 9.5 ล้านกิโลกรัม ผลิตน้ำจิ้มกว่า 5 ล้านกิโลกรัม และเตรียมเป็ดย่างกว่า 3 ล้านตัว
อาคารของครัวกลางได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงระบบอากาศ การรักษาอุณหภูมิให้คงที่ด้วยระบบ Insulation รวมถึงควบคุมความดันอากาศแบบ Positive Air Pressure เพื่อให้ความดันภายในอาคารสูงกว่าเสมอ หากมีการเปิดประตูเข้าออกจะทำให้อากาศไหลเวียนจากภายในอาคารสู่ด้านนอก ป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมถูกลมพัดเข้ามาภายในอาคารโรงงานรวมถึงไม่ปลูกต้นไม้ใหญ่หรือไม้ดอกในระยะ 400 เมตรรอบโรงงาน เพื่อป้องกันการดึงดูดแมลงเข้ามา
โครงสร้างของโรงงานเอื้อต่อการล้างทำความสะอาด เพื่อให้ถูกสุขลักษณะ เช่น รอยต่อระหว่างกำแพงกับกำแพง และรอยต่อระหว่างกำแพงกับพื้น ได้รับการออกแบบให้เป็นโค้งชิ้นเดียวกัน เพื่อความสะอาดเมื่อชะล้าง ไม่มีเศษอาหารหรือฝุ่นตกค้าง ส่วนพื้นโรงงานใช้สีโพลียูรีเธนชนิดสำหรับระบบอุตสาหกรรม เพื่อให้การล้างทำความสะอาดประจำวันทำได้ง่ายและไม่มีสิ่งตกค้างหลงเหลือ
อุปกรณ์หลักของโรงงานยังผลิตจากสแตนเลสทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดสนิม มีการแยกประเภทกระบะตามสีตามการใช้งาน รวมถึงจะมีการทำความสะอาดพื้นและอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวันทั้งก่อนและหลังเลิกงาน ส่วนรถของซัพพลายเออร์หรือรถทุกคันที่ออกไปส่งของทั่วประเทศ จะได้รับการชำระล้างและฆ่าเชื้อเมื่อกลับเข้ามาในบริเวณโรงผลิตทุกครั้ง
ขณะที่ซัพพลายเออร์จากภายนอกเมื่อส่งของ และโหลดของลงจะมีพื้นที่แยกกันชัดเจนไม่ให้เศษสิ่งสกปรกไปปนเปื้อนกับส่วนอื่นในโรงงานผลิตจากนั้นสินค้าที่โหลดลงจะไปตามขั้นตอนของโรงงาน ซึ่งจะไม่มีการย้อนกลับมาให้ปนเปื้อน หลังจากที่ส่งผ่านไปแล้ว
หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของครัวกลางเอ็มเค คือ ครัวผัก ซึ่งทำหน้าที่ล้างผักทั้งหมดกว่า 71 รายการ พร้อมแพ็คใส่ถุงพลาสติกอย่างดี เพื่อส่งออกสู่ผู้บริโภค ซึ่งต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกแหล่งที่มาของผัก จากโครงการหลวง จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการล้าง หากเป็นผักชนิดใบจะล้างกันทีละใบ ทีละก้าน เช่น ผักคะน้า กวางตุ้ง ผักชนิดหัว เช่น ผักกาด จะล้างกันทีละกลีบ จากนั้นจึงล้างทำความสะอาดด้วยเครื่องล้างผักอีกครั้ง ก่อนบรรจุลงในถุงพลาสติก เตรียมส่งสู่สาขาหรือครัวเรือนต่อไป
สำหรับพนักงานที่จะเข้าทำงานในครัวกลางเอ็มเค จะต้องผ่านการตรวจสุขภาพอย่างเข้มงวดก่อนเข้างานทุกวันเริ่มตั้งแต่การสวมชุดที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนมากกว่า 100 องศาเซลเซียส จากนั้นสวมรองเท้าบู๊ตเดินผ่านบ่อน้ำยาที่มีส่วนผสมของคลอรีนไดออกไซด์ความเข้มข้นมากกว่า 50 ppm เพื่อฆ่าเชื้อที่พื้นรองเท้า และพนักงานต้องล้างมือด้วยสบู่และพ่นแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% ก่อนเข้าสู่ไลน์การผลิต
นอกจากนี้ ในระหว่างการผลิตพนักงานจะต้องพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชั่วโมง รวมถึงการแยกสัญลักษณ์ของแต่ละแผนกอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้พนักงานแต่ละแผนกเดินข้ามไปมาป้องกันการปนเปื้อนขั้นตอนเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่า อาหารที่ออกจากครัวกลางจะสะอาดและปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ขั้นตอนต่อไปคือการกระจายสินค้าผ่านโกดังสินค้าและรถขนส่ง 170 คันของ บริษัท เอ็ม-เซนโค โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอ็มเค โกดังแห่งนี้แยกการจัดเก็บสินค้าเป็นกลุ่มสินค้าของสดและสินค้าของแห้ง และยังแบ่งการจัดเก็บเป็นหลายช่วงอุณหภูมิตั้งแต่อุณหภูมิห้องปกติ 25-30 องศาเซลเซียส, แช่เย็น 6-10 องศาเซลเซียส, แช่เย็น 0-4 องศาเซลเซียส และแช่แข็ง -25 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ ระบบส่วนใหญ่ใช้การจัดเก็บและหยิบของด้วยระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) ทำให้มีบุคลากรเกี่ยวข้องในการหยิบจับสินค้าน้อยมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งเรื่องความรวดเร็ว ความถูกต้อง และลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน
ขณะที่รถขนส่ง 170 คันดังกล่าวเป็นรถบุฉนวนกัน ความร้อนทั้งหมด เพื่อให้อาหารคงความสดใหม่ตั้งแต่ครัวกลาง จนถึงครัวของร้านอาหารเครือเอ็มเคแต่ละสาขา ด้วยความสะอาด และความปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ครัวกลางจนถึงจานอาหารที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกค้า นี่จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ยืนหยัดเป็นแบรนด์ในดวงใจของใครหลายคนมาตลอดหลายสิบปี
